ผมและทีมงานได้ก่อตั้งร้านขายอุปกรณ์ประกอปการแต่งสวนขึ้นมาโดนยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พระเจ้าอยู่หัว กล่าวคือดำเนินธุรกิจแบบพอประมาณมีเหตุมีผล ค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มต้นจากการที่ผมได้เออรี่ออกมาจากบริษัทเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ช่วงปี 2548 และได้เริ่มต้นใช้เงินทุนที่มีอยู่ในการซื้อวัตถุดิบในการผลิต กังหันลม ประเภทสวยงามประดับบ้านมาทดลองขายอยู่หน้าบ้าน และปรากฏว่าได้รับผลการตอบรับดีพอสมควรประกอบกับได้ออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งด้วยจึงทำให้พอมีกำไรในการขยายกิจการต่อไป
จากนั้นผมได้ใช้กำไรที่ผมมีอยู่นำไปซื้ออุปกรณ์ของแต่งสวนมาวางขายช่วยปี2549 แลละใช้เวลาพอสมควรกว่าที่จะมีคนรู้จัก ณ.ขณะนั้นมีสินค้าอยู่ไม่กี่ชิ้น เช่น งานรูปหล่อหินทราย เรซิ่น งานดินเผา ฯลฯ และรวมถึงงานชุดน้ำซึ้งส่วนใหญ่เป็นงานออกแบบและประกอบ เองโดยใช้อุปกรณ์มาตรฐานมาดัดแปลงรวมถึงอุปกรณ์เก่าๆ อาทิเช่น โม่แป้งโบราณ ไหโบราณ เครื่องปั้นดินเผา ฯลฯ ตามแต่จะหามาได้ ดังนั้นงานชุดน้ำต่างฯของเราจะเป็นงานเฉพาะซึ้งจะไม่เหมือนกับท้องตลาดทั่วไป
ในช่วงต้นปี2550 ผมและทีมงานได้ผลิตงานไม้ขึ้นมาและได้นำไปเสนอคู่ค้าซึ้งทางร้านเราได้สั่งสินค้าเขามาขาย และได้ทดลองตลาดโดยการวางขายในร้านเราเองและร้านของคู่ค้า และได้ผลการตอบรับจากตลาดดีมาก ณ.ขณะนั้น ซึ้งเป็นจุดกำเนิดของงานส่งของเรา และเราก็ได้รับออเดอร์ ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ และได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นพอสมควร แต่เนื่องจากเรามีจุดยืนคือเราจะทำธุรกิจแบบพอเพียง พอประมาณ ตามที่กล่าวเอาไว้ข้างต้น เราจึงไม่ขยายตลาดต่อ และดูแลลูกค้าที่เรามีอยู่อย่างดีที่สุด
ในช่วงต้นปี2551 เป็นกระแสของธุรกิจสีเขียว เพื่อช่วยลดสภาวะโลกร้อนนั้นคือการช่วยกันปลูกต้นไม้ ปลูกป่า เราเล็งเห็นความสำคัญของเหตุผลข้อนี้เป็นอย่างดี เราจึงเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับไม้ดอก ไม้ประดับ ฯลฯ ประกอบกับทีมงานของเรามีความชำนาญเกี่ยวกับต้นไม้บ้างพอสมควร เร่าจึงเริ่มธุรกิจตัวนี้โดยเริ่มจากการซื้อพันธ์ไม้จากเจ้าของสวนที่เรารู้จัก ส่วนหนึ่งนำมาขาย และอีกส่วนหนึ่งนำมาศึกษาเพื่อขยายพันธุ์เอง รวมถึงต้นไม้เก่าที่มีอยู่ในร้านแล้ว จึงทำให้ปัจจุบัน 80% ของในร้านเป็นต้นไม้ที่เราเพาะเองทั้งสิ้น และในปีเดียวกันนั้นเองเราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเก่าที่ ซื้อของเราไป ให้เราไปช่วยจัดสวนให้และเราก็ได้รับคำชมกลับมาทุกครั้งและลูกค้าก็ได้แนะนำกันแบบปากต่อปากจวบจนถึงปัจจุบัน
|