ที่มาเนื้อหาเพลงดุซงญอสันติภาพ ; อ.สุริยะ ตะวันฉาย
ข้าพเจ้าหนึ่งในเหยื่อเหตุการณ์วันนั้น
ธันวาคม ๒๕๕๑
อาจด้วยความบังเอิญหรือด้วยความมุ่ง ‘จงใจ’ ตอกลิ่มความแตกแยกเรื่องราวว่าด้วยความสัมพันธ์อันผูกพันลึกซึ้งระหว่างพี่น้องไทยพุทธ มุสลิม และคนไทยเชื้อสายจีน กอปรกับปัญหาด้านยาเสพติด ทั้งหลายทั้งมวลถูกสะท้อนผ่านเหตุการณ์อันเศร้าสลดอีกครั้งซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ ณ สถานที่ประวัติศาสตร์เคยเกิดเหตุ ‘ปือแฤดุซงญอ’ หรือการ ‘ลุกขึ้นสู้’ ของชาวบ้านในพื้นที่กับอำนาจไม่เป็นธรรม
ห้วงเช้าขณะ นางสาววิลาวัณย์ สติกรกูล เจ้าของร้านขายของชำในตลาดดุซงญอซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามปั๊ม ปตท. กำลังเปิดร้านขายของตามปกติ ปรากฏว่ามีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน บางก็ว่า ๒-๔ คน คนทำทีว่าจะมาซื้อของ หลังจากนั้นอาศัยทีเผลอใช้ไม้ทุบตีและกระชากสร้อยแล้วพากันหลบหนีไป เหตุการณ์เช่นนี้อาจถือเป็นเรื่องปกติของการปล้นฉกชิงวิ่งราวทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นคือสิ่งสะท้อนความหฤโหดของผู้กระทำการที่มุ่งปรับแผนปฏิบัติการเพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่มาติดกับอย่างเลือดเย็น
ข้าพเจ้าได้ทราบว่ามีเหตุในหมู่บ้านตอนเช้าแล้ว แต่ต้องรีบไปที่ว่าอำเภอเนื่องจากต้องไปถวายพระพรในวันพ่อแห่งชาติ ขากลับก่อนจะไปบริเวณเกิดเหตุร้ายจึงพาแยกย้ายกลับบ้านเพื่อทำภารกิจส่วนตัว เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น.ออกจากบ้านไปตรวจสอบเหตุพร้อมกับเพื่อนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าตำรวจ เหตุการณ์มันเกิดเร็วมาก ระเบิดมันทำงานจนทำให้ทุกคนอยู่ในเหตุการณ์นั้นกระเด่นไปคนละทิศคนละทาง จากนั้นเสียงโห้ยหวน เสียงตะโกนกันจนอลหม่าน ความวุ่ยวาย มันน่ากลัวมากในชีวิตของข้าพเจ้า ไม่อยากเชื่อว่าหมู่บ้านอันสงบมาหลายสิบปีหลังจากเหตุการณ์ ’กบฏดุซงญอ’ ชีวิตผมเท่าที่ประสบมา เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุและรีบเร่งเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ขณะที่มีเพื่อนบ้านมุสลิมมาสอบถามเหตุการณ์ด้วยความเป็นห่วงบ่วงใย คนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ในจุดเกิดเหตุได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ประกอบไว้ในถังแก๊สปิกนิกน้ำหนักกว่า ๒๐ กิโลกรัมที่วางไว้ข้างถังพลาสติกสี่เหลี่ยมซึ่งแช่ผักเอาไว้หน้าร้าน ทำให้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม ๖ ราย และบาดเจ็บ ๑๒ราย
๒ ในผู้เสียชีวิตคือ นายอับดุลฮาเล็ม ตาปู ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑ บ้านดุซงญอ และนายอารง คาน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑ บ้านดุซงญอ อ.จะแนะ ยังมีอีก ๒ คนในผู้เสียชีวิตคือ นายเลอศักดิ์ ชีวะโรจน์ พี่ชายเจ้าของร้านชำ และนายชุมพล สุนทรการวิโรจน์ เป็นคนไทยเชื้อสายจีนซึ่งยังคงผูกพันกับท้องถิ่น ทำมาค้าขายกับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ด้วยอาทรเพราะเขาเกิดที่นี่ ตัดสินใจยึดหลักปักฐาน ณ ถิ่นเกิด ไม่ยอมย้ายออกไปไหนไม่ว่าจะเกิดเหตุร้ายใดๆ ในพื้นที่เป็นกี่ครั้งก็ตาม ๑ ในผู้เสียชีวิตคือ นายอดุลย์ แวอุเซ็ง ครูโรงเรียนสวนพระยาวิทยา อ.จะแนะ คนพื้นถิ่นซึ่งผ่านการร่ำเรียนในระบบกระทั่งตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อแทนคุณแผ่นดิน และ ๑ ในผู้เสียชีวิตรายสุดท้าย คือ เด็กชายสารีฟ มะรอดิง อายุเพียง ๙ ขวบ นักเรียนโรงเรียนบ้านดุซงญอ
ส่วนตัวข้าพเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ๒ ส่วนสำคัญๆ คือ ถูกสะเกดระเบิดบริเวณหน้าท้องทำให้ลำไส้ทะลักออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ยังดีที่ไม่ได้ทำลายระบบอื่นๆ และยังถูกสะเกดระเบิดตัดเส้นเลือดใหญ่บริเวณแขนขวา ทำให้อ่อนเพลียไม่มีแรง กลายเป็นคนพิการ ไม่สามารถทำงานหนัก รักษาพักตัวอยู่โรงพยาบาลแรมปี
เบื้องหลังเหตุการณ์คือการสะท้อนจิตใจอำมหิตของผู้กระทำ โดยอาศัยสัมพันธภาพอันดีของผู้คนเป็นตัวล่อให้เหยื่อต้องกระโจนเข้าสู่กับดักของความตาย โดยไม่อินังขังขอบอีกต่อไปแล้วว่า ‘เหยื่อ’ จะเป็นคนไทยพุทธหรือมุสลิม เป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เป็นหญิงหรือชาย เป็นชาวบ้านหรือเจ้าหน้าที่
"ร้านของคนไทยหรือมุสลิม” “คนตายเป็นคนไทยพุทธหรือมุสลิม” ทันทีที่เกิดเหตุ คำถามประมาณนี้จักเกิดขึ้นทันที นั่นแสดงว่าเนื้อนัยความรู้สึกของผู้คนประเภทหนึ่งมีการแบ่งแยกชัดเจน และมีบ้างถึงขนาดเชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐน่าจะอยู่เบื้องหลังด้วย กระทั่งเมื่อรู้ว่าเป็นร้านของคนไทยเชื้อสายจีน ปัญหาเรื่องการก่อเหตุเพื่อมุ่งฆ่ามุสลิมจึงถูกตีตกไป แต่ปริศนาใหม่ก็เริ่มขึ้น นั่นคือการสรุปความว่า “น่าจะเป็นเรื่องของขบวนการยาเสพติด” ทำให้เป็นคำถามที่ติดตามมาว่า นอกจากประเด็นว่าด้วยเรื่องอื่นๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุการก่อเกิดปัญหาไฟใต้งวดนี้แล้ว น่าจะมีเรื่องของ ‘ยาเสพติด’ พ่วงเข้าไปด้วยเป็นแน่
ข้าพเจ้า เชื่อว่าความรัก ความศรัทธา ความสามัคคีของพี่น้องในหมู่บ้านดุซงญอ ไม่ว่าคนไทยเชื้อสายจีน และคนไทยมุสลิม ยังมีความรัก ความผูกพันธ์ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงและมีความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพียงแต่มันต้องใช้เวลา ประสานร้อยราวที่พวกเราในชุมชนไม่ได้เป็นผู้กระทำ และเชื่อว่าเป็นการกระทำของคนนอกพื้นที่ ฉวยโอกาสตามกระแสความรุนแรงในการสร้างสัญลักษณ์ในการต่อสู่ สร้างความขัดแย้งจากอดีต ในหมู่บ้านที่เต็มไปภาพพจน์แห่งต่อสู้ระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้ารัฐ แต่วันนี้มันไม่ใช้เช่นนั้น และไม่ใช่คนในพื้นที่เป็นผู้กระทำเสียด้วย
ข้าพเจ้า ขอร้องไม่ว่ากลุ่มจะเป็นฝ่ายไหน ที่เป็นผู้กระทำ ขอให้หยุดเสีย หยุดทำลายสิ่งดีๆที่คนในพื้นที่เขาอยู่กันอย่างมีความสุขมานาน หยุดสร้างความปั่นปวน เพราะทุกคนหวังให้วิธีชีวิตสมัย ปู ย่า ตา ยาย ที่อยู่อย่างพี่น้องมีความหลากหลายทางเชื่อชาติ ความเชื่อ กลับมาอีกครั้ง และเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดซ้ำรอยเดิมอีก ไม่ว่า ณ บ้านดุซงญอแห่งนี้ หรือพื้นไหนๆในสามจังหวัดชายแดนใต้ อีกต่อไป
ที่มาข้อมูล :https://narater2010.blogspot.com/2012/08/blog-post_22.html
นายรอฮิม กาพอ ( เหยื่อในเหตุการณ์ ) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑ บ้านดุซงญอ ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส .๒๐ มกราคม ๒๕๕๒ ที่ ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ นราธิวาส.และผู้ร่วมเหตุการณ์ นายสะรอนิง บือซา ๒๕๕๑ .
|