ช่วงนี้ก็เป็นช่วงเวลาแห่งการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันแล้ว หลายคนคงเริ่มคิดที่จะวางแผนในการจัดสรรการใช้เงินหรือโบนัสเพื่อเป็นการฉลอง หลังจากที่ได้ทำงานเหนื่อยกันมาทั้งปี แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมสิ่งสำคัญที่เราทุกคนจะต้องเตรียมให้ พร้อมก่อนที่จะขึ้นปีใหม่นะครับ ซึ่งก็คือการวางแผนการสำหรับการเสียภาษีเงินได้ประจำปีนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้เสียภาษีที่มี จำนวนมากที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ และที่สำคัญ การเสียภาษีเงินได้ประจำปีนี้จะหลงลืมเสียไม่ได้นะครับ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะต้องเสียเงินเพิ่ม หรือหากถูกประเมินภาษีก็จะต้องเสียเบี้ยปรับอีกด้วย
อันที่จริงแล้ว การวางแผนภาษีสำหรับผู้ที่มีรายได้หลักเป็นประเภทเงินเดือนนั้น ทำได้ค่อนข้างยากครับ เพราะกฎหมายกำหนดให้รายได้ประเภทนี้สามารถหักค่าใช้จ่ายได้น้อยมาก กล่าวคือเพียงร้อยละ 40 ของเงินเดือน รวมกับโบนัสทั้งปี แต่ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่นำมาหักจะต้องไม่เกิน 6 หมื่นบาท หากคำนวณแล้วก็เท่ากับว่ากฎหมายยอมให้หักรายจ่ายเพียงเดือนละ 5 พันบาท เท่านั้น ซึ่งผมเห็นว่าไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบัน เป็นอย่างมาก อีกทั้งรายจ่ายที่ได้รับยกเว้นภาษีตามที่กฎหมายกำหนดนั้นก็มีค่อนข้างน้อย แม้จะมีการเสนอปรับปรุงการหักค่า ใช้จ่ายและค่าลดหย่อนก็ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม อาจมีพรรคการเมืองบางพรรคพยายามจะเสนอนโยบายภาษีอยู่เหมือนกัน ดังนั้น ผมจึงได้จัดทำรายการตรวจสอบด้านล่างนี้ขึ้นสำหรับผู้อ่านทุกท่าน เพื่อเป็นแนวทางในการตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีรายได้ประเภทเงินเดือนเป็นหลัก เพื่อให้การเสียภาษี ของท่านนั้นเป็นไปโดยถูกต้องและใช้ประโยชน์ในทางภาษีอากร ตามกฎหมายให้ได้สูงสุดเพื่อเป็นการประหยัดภาษีต่อไปครับ
1.การตรวจสอบเอกสารหลักฐาน
ท่านมีรายได้ทั้งหมดกี่ประเภท แต่ละประเภทมีจำนวนเท่าไหร่ มีหลักฐานการถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ครบถ้วนหรือไม่ อย่างไร นอกจากนั้นท่านควรตรวจสอบต่อไปว่า รายจ่ายที่ท่านจะสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีหรือยกเว้นเงินได้นั้น มีทั้งหมดกี่รายการ แต่ละรายการมีเอกสารหลักฐานที่จำเป็นต้องใช้เพื่อประโยชน์ในการนำมาหักลดหย่อนภาษีหรือยกเว้นเงินได้ดังกล่าวถูกต้องครบถ้วนแล้วหรือไม่
2.การเสียภาษีเงินได้ด้วยวิธีพิเศษ
หากท่านได้รับเงินได้เนื่องจากท่านออกจากงาน และเข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว เช่น ท่านทำงานมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี แล้วออกจากงาน เป็นต้น ท่านจะมีสิทธิเลือกเสียภาษีโดยวิธีพิเศษ โดยท่านสามารถแยกคำนวณภาษีสำหรับเงินได้ดังกล่าว ทำให้ท่านสามารถหักค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น และไม่ต้อง นำไปรวมคำนวณภาษีร่วมกับเงินเดือนหรือเงินได้ประเภทอื่นๆ ทำให้ท่านมีภาระภาษีจากอัตราภาษีแบบก้าวหน้าลงลดได้
3.สิทธิในการเลือกเสียภาษี
บางท่านอาจมีเงินได้อื่นๆ นอกจากเงินเดือน เช่น เงินปันผล ดอกเบี้ยพันธบัตร ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยไม่มุ่งค้าหรือหากำไร ซึ่งเงินได้ดังกล่าวได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว ท่านสามารถเลือกเสียภาษีจากภาษีที่ถูกหักไว้ ณ ที่จ่าย ได้โดยไม่ต้องนำเงินได้ดังกล่าวไปรวมคำนวณภาษีร่วมกับเงินเดือนหรือเงินได้ประเภทอื่นๆ ทำให้ลดภาระภาษีจากอัตราภาษีแบบก้าวหน้าลงได้
4.เครดิตภาษีเงินปันผล
ท่านที่ถือหุ้นในบริษัทต่างๆ และได้รับเงินปันผล นอกจากท่านจะมีสิทธิเลือกเสียภาษีจากภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้แล้ว ท่านยังสามารถการเลือกใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อีกกรณีหนึ่ง คือ เครดิตภาษีเงินปันผลตามมาตรา 49 ทวิ
เครดิตภาษีเงินปันผล = เงินปันผล X อัตราภาษีที่บริษัทผู้จ่ายเงินปันผลต้องเสีย
100 อัตราภาษีที่บริษัทผู้จ่ายเงินปันผลต้องเสีย
โดยปกติ หากผู้เสียภาษีมีเงินได้สุทธิไม่เกิน 4 ล้านบาท ผู้เสียภาษีควรเลือกใช้ประโยชน์จากเครดิตภาษีเงินปันผล เพราะ จะได้รับเงินภาษีคืนจากกรมสรรพากร แต่หากผู้เสียภาษีมีเงินได้สุทธิเกิน 4 ล้านบาทแล้ว ผู้เสียภาษีควรเลือกเสียภาษีจากภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้
5.การหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
ท่านอย่าลืมหักค่าใช้จ่ายและค่าตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ให้ครบถ้วน ท่านที่เป็นลูกจ้างจะให้ค่าใช้จ่ายไปเพียง 40% ของ เงินเดือนรวมกับโบนัสทั้งปี แต่จะหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุดไม่เกิน 6 หมื่นบาท และหักค่าลดหย่อนส่วนตัวอีก 3 หมื่นบาท และค่า ลดหย่อนบุตรอีกคนละ 1.5 หมื่นบาท (ไม่เกิน 3 คน) รวมทั้งหักค่าการศึกษาของบุตรดังกล่าวได้อีกคนละ 2 พันบาท
6.ท่านเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือไม่ หากเป็น ท่านสามารถนำเงินที่ส่งเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นค่าใช้จ่ายได้แต่ไม่เกิน 3 แสนบาท
7.ท่านซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หรือไม่ หากซื้อ ท่านสามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายของท่านได้ แต่ไม่เกิน15% ของเงินได้ โดยเมื่อรวมกับเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตามข้อ 6 แล้ว จะได้ไม่เกิน 3 แสนบาท
ผมมีข้อสังเกตเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงปลายปีกองทุน RMF จะ มีการเร่งยอดขายโดยการแจกของขวัญต่างๆ แต่ท่านก็อย่าลืมว่า ท่านสามารถหักค่าซื้อหน่วยลงทุนได้เพียงไม่เกินจำนวนตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ดังนั้น ท่านจึงควรพิจารณาถึงเรื่องดังกล่าว ก่อนตัดสินใจซื้อหน่วยลงทุน โดยไม่เห็นแต่ของขวัญแต่เพียงอย่างเดียว
สำหรับท่านที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน RMF มาเป็นเวลา ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ซื้อมาครั้งแรกแล้ว ผมเห็นว่าท่านอาจพิจารณาขายหน่วยลงทุนในกองทุน RMF ไป โดยเหลือหน่วยลงทุนในกองทุน RMF ไว้บางส่วน เพราะอาจมีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการถือหน่วยลงทุนในกองทุน RMF ภายในเวลาอันใกล้นี้
8.ท่านซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หรือไม่ หากซื้อ ท่านสามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายของท่านได้ แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ แต่สูงสุดได้ไม่เกิน 3 แสนบาท ทั้งนี้ สำหรับท่านที่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน LTF ที่ตั้งขึ้นภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2550 เท่านั้น
9.ท่านมีรายจ่ายดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินเพื่อที่อยู่อาศัย หรือไม่ หากมีท่านสามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ แต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท และรายจ่ายค่าลดหย่อนประกันชีวิตไม่เกิน 5 หมื่นบาท
10.ท่านใดที่อุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ ก็สามารถหักค่าลดหย่อน ได้อีกคน 3 หมื่นบาท นอกจากนั้น ท่านที่จ่ายค่าเบี้ยประกัน สำหรับการประกันสุขภาพบิดามารดา ก็สามารถหักค่าใช้จ่ายได้อีก ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท
11.นอกจากนั้น ท่านที่ได้บริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา จะ สามารถหักเงินบริจาคได้เป็น 2 เท่าของจำนวนที่จ่าย แต่ไม่เกิน 20% ของรายได้ หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนรายการอื่นแล้ว หรือท่านที่บริจาคเพื่อสนับสนุนการกีฬา จะสามารถหักเงินบริจาคได้เป็น 1.5 เท่าของจำนวนที่จ่าย แต่ไม่เกิน 20% ของรายได้ หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนรายการอื่นแล้ว
12.ท่านมีการบริจาคเงินให้วัดวาอาราม องค์การสาธารณกุศลหรือไม่ โดยตรวจสอบดูรายชื่อองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ ด้วย ที่มีกว่า 600 แห่ง และเลือกทำบุญได้ตามอัธยาศัย หากมี ท่านสามารถหักเงินบริจาคเป็นค่าใช้จ่ายได้ แต่ไม่เกิน 10% ของรายได้ หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนรายการอื่นข้างต้นแล้ว นอกจากนี้ ของต่างๆ ที่ท่านได้รับจากการบริจาคเงิน เช่น พระเครื่อง วัตถุมงคล ฯลฯ อาจจะกลายเป็นของมีค่าในอนาคตก็ได้ ดังนั้น ท่านควรจะบริจาคเงินเยอะๆ นะครับ นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังรับทรัพย์สิน ที่มีคุณค่าทางใจตอบแทนอีกด้วย
ในครั้งหน้าเราจะลองเปรียบเทียบให้ท่านเห็นว่า การหักค่า ลดหย่อนประเภทต่างๆ จะช่วยให้ท่านประหยัดภาษีลงได้
ที่มา - http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=finance&id=205738
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ - http://www.rd.go.th/publish/36195.0.html คำถาม RMF
- ผลตอบแทน RMF & LTF. ปี 2550 http://www.bangkokbiznews.com/fundamental/
- มรสุมซับไพร์ม หอบความมั่งคั่ง"FIF"หาย 10% http://www.bangkokbiznews.com/fundamental/
|