ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับชาวกรมสรรพากรที่ได้ท่านร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนใหม่ ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของกรมสรรพากรแบบเต็มร้อย ซึ่งอาจจะช่วยให้ท่านสามารถของบประมาณในการพัฒนากรมสรรพากรได้ง่ายขึ้นเพราะพูดภาษาเดียวกันชนิดมองหน้าก็รู้ไปถึงใจ
www.teinpun.com 27.9.48
ทราบหรือไม่ว่าทันทีที่มีข่าวว่าท่านสุชาติฯจะมาเป็น รมต.คลังนั้น ต่อมความเครียดของนักธุรกิจทั้งหลายเริ่มทำงานอย่างหนักแบบความเครียดพุ่งปรู๊ดขึ้นสมองทันที
สิ่งแรกที่นักธุรกิจคิดก็คือการจัดเก็บภาษีจะต้องเข้มข้นขึ้นแน่นอนและชาวเราทั้งหลายคงจะต้องเผชิญกับการถูกตรวจสอบจากกรมสรรพากรมากขึ้นทั้งๆที่ทุกวันนี้ก็รับกันแทบไม่ไหวอยู่แล้ว ถึงแม้ท่านสุชาติ จะออกมาปฎิเสธอย่างไร ก็ไม่มีใครเชื่อและวางใจได้หรอก เพราะเริ่มมีข่าวว่าท่านอธิบดีกรมสรรพากรเตรียมจะของบฯเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาทเพื่อเอามาใช้ในการกำกับดูแลผู้เสียภาษีอย่างใกล้ชิดมากกว่าเดิมและก็กำลังจะเข็นมาตรการชิงโชคจากเลขท้ายใบกำกับภาษีเพื่อส่งเสริมให้มีการขอใบกำกับภาษีทุกครั้งที่ซื้อสินค้า
ดังนั้นตอนนี้ทุกกิจการควรจะประกาศปรับระดับการเตรียมพร้อมรับมือกับกรมสรรพากร เป็นรหัสสีส้ม หรือเท่ากับการเตรียมพร้อมระดับสูง เช่นเดียวกับการรับมือจากการก่อการร้ายในสหรัฐฯได้แล้ว
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ก็เลยอดไม่ได้ที่จะเอาประสบการณ์ที่ได้เจอะเจอแบบ สดๆร้อนๆ มาเล่าให้ฟังว่าเดี๋ยวนี้กรมสรรพากรเขามีความพร้อมเพียงใดและมีแนวการตรวจอย่างไร
สัปดาห์ที่ผ่านมาขณะที่กำลังนั่งคุยเรื่องโครงสร้างธุรกิจเพื่อวางแผนภาษีอยู่กับลูกค้าชาวต่างชาติรายหนึ่งซึ่งเพิ่งเปิดบริษัทฯมาไม่ถึงครึ่งปี เผอิญมีเจ้าหน้าที่สรรพากรคณะหนึ่งเข้ามาเยี่ยมโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า ทำให้ฝรั่งที่กำลังนั่งคุยกันตกใจจนกระเจิงจากโต๊ะประชุมกันไปคนละทิศละทาง
พอตั้งสติได้ทุกคนก็กลับมารวมตัวกันใหม่และเริ่มที่จะทำใจดีสู้เสือเข้าไปนั่งตอบข้อซักถามของเจ้าหน้าที่สรรพากร เขาก็บอกว่าเหตุผลที่มาเยี่ยมเพราะได้ข้อมูลจากการที่เราขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มและเห็นว่าเราเป็นบริษัทที่เพิ่งเปิดขึ้นใหม่ก็เลยจะมาสำรวจข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งในภาษาเทคนิคของกรมสรรพากรเขาจะเรียกการตรวจแบบนี้ว่า ตรวจสภาพกิจการ
คณะของสรรพากรประกอบด้วยกัน4 ท่านโดยมีตั้งแต่ระดับ ซี 3 -7 และเป็นธรรมดาที่เจ้าหน้าที่ระดับ ซี 7 จะเป็นผู้ซักถามในประเด็นต่างๆอย่างเชี่ยวชาญและเตรียมตัวมาดี ประเด็นที่สอบถาม รวมทั้งการให้การแนะนำ มีดังนี้
1. Office ที่เขามาหานี้ ที่อยู่ไม่ตรงกับที่จดทะเบียน ไว้ ลูกค้ารายนี้เดิมใช้บ้านเป็นสถานที่จดทะเบียน แต่หลังจากนั้นไปเช่าสำนักงานแต่ไม่ได้แจ้งย้ายที่อยู่เจ้าหน้าที่บอกว่าได้ที่บ้านมาแล้วว่าไม่มีใครทำงานสักคน เลยตามมาที่นี่ซึ่งไม่รู้ว่ามาถูกได้อย่างไร ได้รับคำแนะนำว่าที่ถูกต้องจะต้องแจ้งย้ายทะเบียนมูลค่าเพิ่ม 15 วันก่อนการแจ้งย้ายสำนักงานที่กระทรวงพาณิชย์
2. .ใบกำกับภาษีใช้ที่อยู่ มีที่อยู่ที่ถูกต้องตามทะเบียนฯหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องจะกลายเป็นภาษีซื้อต้องห้าม
3. มีการชำระเงินมาตามตัวเลขที่แจ้งทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วหรือไม่ ถ้าไม่มีให้ตั้งดอกเบี้ยค้างรับและจ่ายธุรกิจเฉพาะด้วย (เรื่องเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะในกรณีนี้ ผู้เขียนไม่เห็นด้วยเท่าไหร่เพราะธุรกิจเฉพาะเสียภาษีบนเกณฑ์เงินสด ดังนั้นถ้าเป็นการตั้งรายได้ค้างรับไว้ทำไม สรรพากรจึงมักบังคับให้ไปเสียธุรกิจเฉพาะ ทั้งที่ยังไม่ได้มีการจ่ายชำระเงินกัน)
4. การเช่าสำนักงานมีสัญญาเช่าหรือไม่
5. สัญญาเช่าติดอากรให้ครบถ้วนด้วย
6. การจ่ายค่าบริการต่างๆมีการหักภาษี ณ.ที่จ่ายและนำส่งหรือไม่
7. เนื่องจากลูกค้ารายนี้ทำ เรียลเอสเตท เขาเลยถามว่าราคาที่ดินที่แจ้งกับราคาที่จ่ายตรงกันหรือไม่
8. การใช้สำนักงานร่วมกับบริษัทฯอื่นให้ระวัง กรณีค่าใช้จ่ายที่จ่ายจากบริษัทหนึ่งแต่เป็นการใช้งานของทั้งสองบริษัท ภาษีซื้อในกรณีนี้จะถือเป็นภาษีซื้อต้องห้าม
ที่กล่าวถึงความพร้อมด้านข้อมูลของสรรพากรและอยากจะมาเล่าสู่กันฟังก็คืออยากจะบอกว่าเจ้าหน้าที่ที่มาเยี่ยมนั้นเขามาพร้อมกับรายงานฉบับหนึ่งที่เข้าใจว่าเรียกมาจากฐานข้อมูลของกรมฯ ซึ่งเพียงแต่กดรหัสเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบริษัทลงไป ก็จะจะมีรายละเอียดการยื่นภาษีของในปีที่ต้องการตรวจ ทั้งวันที่และจำนวนเงิน ของภาษีทุกประเภท ตั้งแต่ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีหัก ณ.ที่จ่าย ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ยิ่งไปกว่านั้นเขามีการแยกหัวข้อว่าบริษัทฯนี้มีประวัติการทำผิดและมีการจ่ายเบี้ยปรับไว้ กี่ครั้งแล้ว จะเห็นได้ว่าพัฒนาการของกรมสรรพากรวันนี้ ไม่ธรรมดาทีเดียว กิจการทั้งหลายเหมือนลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด
จึงเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นข้อมูลที่จะได้เตรียมตัวให้พร้อม และมีอย่างหนึ่งที่ยังจะพอใจชื้นกันได้ก็คือเจ้าหน้าที่ของกรมฯในยุคนี้มีความเป็นมิตรกับผู้เสียภาษีมากและมีความตั้งใจที่จะให้คำแนะนำเพื่อให้เราทำให้ถูกต้อง
จะได้ไม่มีปัญหาต้องมาเสียภาษีย้อนหลังในภายหน้า
p> |