หัวข้อข่าว : หมึกแดงซึม ลูกน้องแสบ เชิดเงินหนี้50ล. |
|
ที่มา / อ้างอิง : คมชัดลึก
|
พิมพ์ข่าว |
|
ส่งต่อ | |
"หมึกแดง" ช็อก ถูกลูกน้องหักหลังฉ้อโกงเงินบริษัท ตะลึงจู่ๆ กลายเป็นหนี้ธนาคารกว่า 50 ล้านบาท เผยเพราะความไว้ใจลูกน้อง เผยพ่อแม่ให้กำลังใจจนยืนได้ ชี้ไม่ตายหาเงินใหม่ได้ อยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนการไว้ใจคน
กลายเป็นเรื่องขึ้นมา เมื่อ ม.ล.ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ หรือ "หมึกแดง" ที่ทุกคนรู้จักในฐานะพ่อครัวคนดังในประเทศไทย ต้องกลายเป็นลูกหนี้ธนาคารกว่า 50 ล้านบาท เนื่องจากการถูกพนักงานสาวในบริษัท ถนัดศรี แอนด์ ซัน คอนซัลติ้ง จำกัด ฉ้อโกง
โดยเรื่องราวครั้งนี้ ม.ล.ศิริเฉลิม เปิดเผยหลังทราบว่าถูกโกง โดยเล่ารายละเอียดว่า เริ่มต้นจากได้รับพนักงานสาวคู่กรณีมาเป็นพนักงานบริษัทในตำแหน่งสมุห์บัญชี หลังจากนั้นก็ได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้จัดการและคอยดูแลประสานงานธุรกิจและธุรกรรมในบริษัท นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเรื่องส่วนตัวด้วย
?ตอนนั้นเขาเป็นสมุห์บัญชี จากนั้นพอบริษัทเจริญขึ้น เราก็ไว้วางใจให้เขาเป็นผู้จัดการใหญ่ และให้ทำทุกอย่าง ทั้งติดต่องาน จัดการทั้งเรื่องส่วนตัวและธุรกิจ อยากได้อะไรก็ให้เขาจัดการให้ เขาทำงานกับผมมานานกว่า 8 ปี ไว้ใจมาตลอด จนผมมาเริ่มผิดสังเกต เพราะถูกสังคมภายนอกมองภาพว่าเป็นคนหยิ่ง งก ขี้วีน ปากร้าย และเรื่องมากสารพัด ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่านั่นเป็นภาพผมที่เขาวาดให้คนภายนอกรับรู้ เขาเคยเป่าหูผมว่า คนนั้นไม่ดีอย่างนี้ คนนี้เป็นอย่างนั้น แต่ที่โกรธมากที่สุดคือ ยุให้ผมกับแม่แตกกัน มาบอกกับผมว่าแม่ร้ายอย่างนี้นะ แล้วบอกแม่ว่าเราไม่ดี คือ ผมโกรธกับแม่ไป 4-5 ปี และมีเรื่องกันอยู่เรื่อยๆ? ม.ล.ศิริเฉลิม กล่าว
"หมึกแดง" เล่าว่าความชัดเจนว่าถูกโกงส่อเค้ามากขึ้นหลังจากผู้จัดการคนเดิมรายงานว่าสภาพคล่องของบริษัทไม่ดี จึงได้ปรึกษากับบริษัทที่ดูแลเรื่องประชาสัมพันธ์และการตลาดเพื่อหากิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมรายได้ให้กับธุรกิจ แต่ผู้จัดการรายนั้นปฏิเสธทุกอย่าง กระทั่งวันหนึ่ง จึงได้เรียกประชุมพนักงานบริษัท
"ในที่ประชุมเขาบอกว่า ใครในบริษัทนี้อยากจะให้นาย (หมายถึงม.ล.ศิริเฉลิม) ปิดบริษัทบ้าง ผมเลยถึงบางอ้อว่า ตกลงบริษัทนี้เป็นของใครกันแน่ แล้วมันไม่ใช่ประชาธิปไตย นี่คือบริษัทของฉัน ก็เลยพูดคำเดียวว่า ปิดไม่ได้หรอก ยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ และเขาก็ให้ทุกคนพูดว่าเราเป็นยังไง คนของเขาก็รุมเราเลย บอกว่า เราขี้วีน ขี้งก ไปออกงานที่ไหนก็มีข้อจำกัด ซึ่งตรงนั้นเรามีสติ เขาทำให้เราเห็นว่า เขาไม่ได้หวังดีกับเราเลย? พ่อครัวคนดัง กล่าว
เมื่อเหตุการณ์ความผิดปกติชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ ม.ล.ศิริเฉลิมจึงได้ให้ทนายความดำเนินการเลิกจ้างผู้จัดการคนดังกล่าวและพนักงานที่ยกมือให้ปิดบริษัททั้งหมด จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบบัญชีของบริษัท ซึ่งพบว่าไม่มีเงินเหลือในบัญชีของบริษัทเลย แถมยังมีหนี้สินจากการกู้เงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง 50 ล้านบาท ซึ่งกลับกลายเป็นว่าตนเองเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว แถมไม่รู้ว่าเงินที่หายไปจากบัญชีนั้นมากมายแค่ไหนและนานเท่าไรแล้ว
?ทนายความมาถามเราว่า เคยดูงบดุลไหม เราถามกลับไปว่างบดุลคืออะไร เพราะที่ผ่านมาเราสนุกกับการทำงาน แล้วเป็นศิลปิน ก็ไม่เคยดูผลประกอบการอะไรเลย เราให้เขาทำทุกสิ่งทุกอย่าง และไว้ใจเขาเต็มที่ เช็คไม่กรอกตัวเลข ก็เซ็นให้หมด ตอนนี้กลายเป็นว่าเรามีหนี้ 50 ล้าน เพราะลักษณะของรูปแบบบัญชีมันถูกต้อง เงินที่ออกไปก็ถูกต้อง เราเองที่ไม่รู้ ไม่เคยคิดว่าจะมีคนทำให้เราเสียใจได้ขนาดนี้ เขาเอาชื่อเสียงของเราไปปู้ยี่ปู้ยำ และที่ให้อภัยไม่ได้คือ เขาสร้างความแตกแยกระหว่างแม่กับลูก ทำให้เราทำอะไรร้ายๆ จนถึงกับตัดลูกตัดแม่กันไปเลย? ม.ล.ศิริเฉลิม กล่าว
"หมึกแดง" กล่าวว่า ในช่วงแรกที่ทราบเรื่อง ถึงกับล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล และกว่าจะยิ้มแย้มอย่างทุกวันนี้ได้ ก็เพราะได้กำลังใจจาก ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ผู้เป็นพ่อ และ ม.ล.ประอร จักรพันธุ์ มารดา รวมถึงทีมงานรอบข้าง
"พ่อกับแม่เป็นกำลังใจที่ดีมาก แล้วบอกว่า อย่าไปโกรธเขาเลย คิดเสียว่ามันเป็นกรรมแล้วให้เดินหน้าต่อไป ส่วนทีมงานเดิมซึ่งไม่เคยแสดงความเห็นเลย เพราะเขาถูกเป่าหูจนกลัวไม่กล้ามาคุยกับเรา ก็เริ่มมาพูดคุยแล้วก็สนับสนุนให้ก้าวต่อไป จริงๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นก็ดีใจนะ เพราะเมื่อก่อนไม่เคยมีใครให้กำลังใจเรา ตอนนี้ทุกคนขอให้หมึกแดงกลับไปเป็นคนเดิม มองโลกในแง่ดี และเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าเราไม่มีหวังเราก็จะเดินต่อไปไม่ได้ โลกนี้ต้องมีหวัง เวลารักใครก็อย่าให้ใจใครทั้งหมด?ม.ล.ศิริเฉลิม กล่าว
พ่อครัวชื่อดังกล่าวต่อไปว่าเรื่องเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต แม้จะต้องเป็นหนี้ถึง 50 ล้านบาท แต่อย่างน้อยประสบการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้ได้สิ่งดีๆ กลับคืนมา นั่นคือความผูกพันระหว่างครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่โหยหามานาน
"เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตอนนี้ผมมีความสุข และรู้สึกโล่งที่ได้เคลียร์ เงินนั้นหากไม่ตายก็หาใหม่ได้ เพราะสิ่งที่ได้มา มันมากกว่าสิ่งที่เสียไป เราได้ความสุขที่เราได้เคลียร์กับพ่อแม่ พี่น้อง ทำให้เราเข้าใจพ่อแม่มากขึ้น เรื่องนี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์ให้คนทั่วไปได้รู้ว่า อย่าเชื่อใจคนและตายใจมาก ในฐานะที่เราเป็นคนในสังคม เราไม่อายที่จะออกมาพูดเพื่อเป็นตัวอย่าง จะได้รู้ว่าโลกนี้ คนสมัยนี้เป็นยังไง มันเป็นการทรยศทางจิตใจที่เหลือจะทน ถ้าเจอเขาก็อยากจะถามว่า ตัวเองก็มีลูก ทำไมถึงทำกับเราและแม่อย่างนี้ เป็นสิ่งที่เจ็บปวดมาก" ม.ล.ศิริเฉลิม กล่าว ในตอนท้าย
|
18 October 2005 ที่มา Nukbunchee.com |