ในต่างประเทศตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จนถึงต้นปีใหม่ปีจอ มีแต่กระแสข่าวบริษัทชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง ประกาศลดตำแหน่งงานหรือบุคลากรจำนวนมากมายนับพันนับหมื่น

เช่น กรณีของฟอร์ด มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐ ได้ประกาศแผนจะลดตำแหน่งงานลงถึง 3 หมื่นตำแหน่ง ตลอดระยะ 6 ปีข้างหน้า คิดเป็น 21% ของตำแหน่งงานในบริษัททั้งหมด

ล่าสุดคราฟท์ ฟู๊ดส์ อิงค์. ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่สุดของสหรัฐ ภายใต้แผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ได้วางแผนจะลดตำแหน่งงานทั้งในและต่างประเทศ 8,000 ตำแหน่ง หรือประมาณ 8% ของตำแหน่งงานทั้งหมด พร้อมกับปิดโรงงานผลิตอีก 20 แห่ง

การลดบุคลากรของบริษัทในต่างประเทศ กลายเป็นสัญญาณย้อนกลับมาเตือนมนุษย์เงินเดือนชาวไทยทั้งในและต่างประเทศ ให้ฉุกคิดตื่นตัวกับข่าวไม่ดีที่เกิดขึ้น

ประกาศ"ลดโบนัสเหลือครึ่งเดือน" หรือ "ตัดวงเงินค่าบริการโทรศัพท์มือถือลงครึ่งหนึ่ง" เป็นหนึ่งในหลายๆ นโยบายที่น่าจะเป็นสัญญาณ ส่งถึงพนักงานบริษัทแห่งใดแห่งหนึ่งว่า ฐานะการเงินในองค์กรไม่ปกติแน่นอน

เพราะการตัดลดสวัสดิการไม่ว่าจะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง หมายถึงการรัดเข็มขัด และส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้พนักงาน ซึ่งสมควรจะได้แต่กลับต้องหายไปจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ

ถ้าคนไทยทั้งในและต่างประเทศ ที่เป็นมนุษย์ทำงานกินเงินเดือนบริษัท และมีสถานะครอบครัวกับฐานะการเงินไม่ค่อยแข็งแรง ต้องเผชิญกับภาวการณ์ข้างต้น การตัดสินใจโยกย้ายงานหรือลาออก ย่อมไม่ใช่ทางออกที่ดี

ในเมื่อการตัดสินใจลาออกหรือย้ายงาน ไม่ใช่เรื่องดีหรือสมควรจะทำ ความรอบคอบเอาตัวให้รอด จากความเป็นไปได้ที่อาจมีการปลดพนักงาน ถือเป็นการตั้งสมมติฐานที่มนุษย์ทำงานไม่ควรไว้วางใจ

ดังนั้น "5 กลวิธีช่วยให้อยู่รอดปลอดภัยจากการเลย์ออฟ" ของเกอร์รี่ วิลลิส คอลัมนิสต์ ประจำของซีเอ็นเอ็นมันนี่ จึงน่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ ช่วยมนุษย์ทำงานสามารถเผชิญกับความเป็นไปได้ที่จะมีการเลย์ออฟ ด้วยการใช้สติเตรียมปรับตัวปรับใจ รับสถานการณ์หากเกิดขึ้นจริง

"ให้มั่นอ่านประกาศติดบนบอร์ด" วิลลิสเปรียบเทียบให้มนุษย์ทำงานฉุกคิดว่า หากเป็นพนักงานฟอร์ด เมื่อรู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับการเลย์ออฟ พนักงานผู้นั้นมีโอกาสจะเตรียมตัวได้ดี และมากกว่า ขอให้มนุษย์เงินเดือนคอยติดตามสัญญาณเตือนภัยว่า กำลังจะเกิดการเลย์ออฟในบริษัทหรือไม่

โดยสัญญาณเตือนภัยบางอย่าง ซึ่งวิลลิสแนะนำให้พนักงานฉุกคิดและตื่นตัว เช่น การลดค่าใช้จ่าย หยุดว่าจ้างรับพนักงานใหม่ มีการลาออกของฝ่ายบริหาร การตัดลดค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อน และบริษัทคู่แข่งตัดหรือลดตำแหน่งงาน

ขอให้พนักงานนึกอยู่เสมอว่า ภายในองค์กรอาจไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าเกิดการเลย์ออฟให้รู้ระแคะระคายเสมอไป แต่ให้แน่ใจได้บ้างว่าตัวเองยังคอยติดตามสภาพแวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงไปในบริษัทอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม วิลลิสแนะนำมนุษย์เงินเดือนให้รีบใช้ประโยชน์ จากสวัสดิการสุขภาพกับประกันสุขภาพของบริษัท เมื่ออยู่บ้านให้รีบอัพเดท ประวัติการทำงานของตัวเอง ให้สร้างความคล่องตัวด้วยการสืบข่าวคราวจากเครือข่าย โดยเช็คข้อมูลระหว่างสมาชิกในเครือข่าย ผ่านทางอีเมลหรือโทรศัพท์ได้รวดเร็ว

มนุษย์ทำงานชาวไทยรายใด ที่ยังไม่มีเครือข่ายแลกเปลี่ยนข้อมูลความเคลื่อนไหวระหว่างองค์กร หรือมีอยู่แล้วแต่ยังต้องการขยายเครือข่ายให้กว้างออกไปอีก วิลลิสแนะนำให้ตรวจสอบบริการออนไลน์สร้างเครือข่ายเช่น www.linkedin.com หรือ www.ryze.com.

บริการสร้างเครือข่ายผ่านเวบไซต์ข้างต้น เปิดโอกาสให้มนุษย์เงินเดือนเข้าไปลงทะเบียนฟรี โดยผู้ใช้บริการสามารถจะเชื่อมโยงข้อมูลกับสมาชิกคนอื่นๆ และสามารถชักชวนเพื่อนร่วมงานให้เข้ามาลอง เพื่อจะช่วยให้เครือข่ายขยายไปได้เรื่อยๆ

"สมัครสหภาพแรงงานเพื่อผลประโยชน์ดีกว่า" หากมนุษย์ทำงานไม่ได้มีเอี่ยวหรือสมัครสหภาพแรงงานแห่งใดไว้ ผลประโยชน์ที่จะได้รับจึงขึ้นอยู่กับอายุงานที่ทำกับบริษัทเท่านั้น

แต่ถ้าสมัครสหภาพแรงงาน สตีฟ มิรันดา Society for Human Resource Management ให้ข้อมูลว่าจากเงื่อนไขของสหภาพการให้ผลประโยชน์มีหลากหลาย ยิ่งเป็นสหภาพแข็งแกร่งอย่างสหภาพแรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ในต่างประเทศ สมาชิกจะได้รับผลประโยชน์กับความช่วยเหลือแบบครอบคลุมมากขึ้น

บิล โคลแมน แห่ง Salary.com เตือนว่าหากมนุษย์เงินเดือนไม่เป็นสมาชิกสหภาพ ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากบริษัทตามอายุงาน จะต้องรอนาน 1-2 สัปดาห์ กว่าจะได้เงินช่วยเหลือทำขวัญที่ให้เป็นประจำทุกปี

แต่เงินที่ได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานในบริษัท ซึ่งซีอีโอของบริษัทจะได้รับมากกว่าพนักงานระดับกลาง แม้พนักงานระดับกลางเหล่านี้เคยขยันขันแข็งทำงานให้บริษัทมาเนิ่นนานก็ตาม

ทั้งนี้ มิรันดาเพิ่มเติมว่า ในเงื่อนไขของการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานบางแห่งระบุไว้ด้วยว่า ความช่วยเหลือจะรวมถึงการพัฒนาทักษะและจัดอบรม ตัวอย่างเช่น พนักงานบริษัทที่เน้นแต่การผลิตเป็นหลักบางแห่ง อาจพิจารณาหางานอื่นรองรับ เช่น พยาบาลที่มีใบอนุญาต หรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

ในกรณีที่มนุษย์ทำงานใจกล้า อยากเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง ควรคิดถึงผลประโยชน์เรียกร้องหรือสิทธิที่ควรได้ โดยสิทธิที่ได้รับพยายามขอให้อยู่ในรูปของเงินสด เพื่อสะดวกในการนำเงินไปใช้เริ่มต้นเส้นทางใหม่

วิลลิสแนะนำวิธีช่วยให้มนุษย์ทำงาน เรียกร้องจนได้ในสิ่งที่ต้องการว่า ข้อเสนอต้องไม่เกินจริงโดยมีเหตุสนับสนุนน่าเชื่อถือ ด้วยวิธีนี้เชื่อว่าหนทางที่สหภาพหรือบริษัทจะปฏิเสธคำร้องขอจะเกิดขึ้นน้อยมาก

"อย่ามองข้ามผลประโยชน์ควรได้โดยเฉพาะด้านสุขภาพ" วิลลิส เตือนว่าผลประโยชน์บางอย่าง ซึ่งเป็นสิทธิที่มนุษย์เงินเดือนควรได้รับเมื่อโดนรีไทร์หรือออกจากงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวัสดิการหรือประกันสุขภาพ

สำหรับมนุษย์เงินเดือนชาวไทยในสหรัฐ จะได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายของรัฐบาลกลาง ที่เรียกสั้นๆ ว่า COBRA กฎหมายนี้เปิดทางมนุษย์ทำงาน จะยังได้รับประกันหรือสวัสดิการด้านสุขภาพต่อเนื่องไปอีก 1 ปี หรืออีกครึ่งปีหลังจากถูกรีไทร์หรือออกจากงานแล้ว

โดยทั่วไปแล้วมนุษย์เงินเดือน ยังมีเวลา 60 วัน เพื่อตัดสินใจว่าต้องการประกันสุขภาพ ภายใต้กฎหมาย COBRA หรือไม่ หากมีเงื่อนไขหรือสัญญาเดิมครอบคลุมอยู่แล้ว หรือหากกำลังเดินทางไปต่างประเทศ การขอประกันสุขภาพลักษณะนี้ถือเป็นผลประโยชน์ หรือความได้เปรียบที่ควรฉวยไว้

แต่วิลลิสเตือนว่า การได้ประกันสุขภาพภายใต้การคุ้มครองของ COBRA ได้มาด้วยการจ่ายค่าพรีเมียมเต็มๆ และค่าธรรมเนียมบริหารงานอีก 2%

วิลลิสเตือนมนุษย์ทำงานด้วยว่า อย่าลืมสิทธิที่จะได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือในสหรัฐเรียกว่า 401(k) และแผนรับผลประโยชน์จากบำเหน็จบำนาญ และอย่าลืมข้อคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญการเงิน เพื่อหาทางนำเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและบำเหน็จบำนาญ มาลงทุนให้งอกเงยเป็นกันชนรองรับชีวิตวัยเกษียณ

?อย่าลืมรวบรวมเก็บข้อมูลส่วนตัวที่จำเป็นจากอุปกรณ์เครื่องใช้ในบริษัทให้หมด" ข้อนี้เสนอแนะ เพื่อให้แน่ว่ามนุษย์ทำงานทุกคนไม่นิ่งนอนใจ หากสถานการณ์เลย์ออฟมาเยือนจริงๆ ด้วยการรวบรวมผลงาน ประวัติการทำงานที่สำคัญทุกอย่าง จากเอกสารทั้งที่เป็นกระดาษและอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัท

เอกสารและข้อมูลสำคัญข้างต้น เช่น รายชื่อลูกค้าที่ทำดีลกันอยู่เป็นประจำ ข้อมูลการเงินตามหน้าที่เคยปฏิบัติ การวางแผนงาน หรือข้อมูลในสัญญาที่เคยเป็นผลงานของตัวเอง

หากมนุษย์ทำงานต้องคืนอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ทุกอย่าง คำเตือนในข้อนี้วิลลิสบอกว่า จะช่วยให้เขาหรือเธอมีประวัติงานกับข้อมูลการทำงานที่จำเป็น เก็บไว้ใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต แต่การจัดเก็บควรจัดการด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง

"เดินจากบริษัทเก่าอย่างสง่าผ่าเผย" ริชาร์ด เบเยอร์ จาก Five O'Clock Club หนึ่งในเครือข่ายหรือสมาคมแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับมนุษย์เงินเดือน ให้คำแนะนำสุดท้ายกับมนุษย์ทำงาน ที่อาจเผชิญกับการเลย์ออฟว่า อย่าลืมขอเอกสารรับรองการทำงาน จากบริษัทเดิมไว้ล่วงหน้า

การรับรองคุณภาพของตัวเอง เป็นเรื่องดีและไม่ควรลืม เพราะการเลย์ออฟไม่ได้เกิดขึ้น เพราะความผิดพลาดของพนักงาน แต่เป็นผลจากการลดขนาดของบริษัท

เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียโดยไม่ได้มีเอกสารยืนยันสาเหตุของการออกจากงานบริษัทเก่า การขอจดหมายยืนยันหน้าที่และตำแหน่งงานเดิม จึงเป็นเรื่องสำคัญที่มนุษย์ทำงานชาวไทยทั้งในและต่างประเทศ ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน