อมรศักดิ์ พงศ์พศุตม์ amornsak@tax-thai.com
ฮือฮาเปรี้ยงปร้างกับข่าว ?น้องเดียว? (ด.ช.พัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์) พิชิต 200 หน้าบุคคลปริศนา คว้ารางวัล 4 ล้านบาท ในรายการ ?เกมทศกัณฐ์เด็ก? สดๆ ร้อนๆ ทางโมเดิร์นไนน์ทีวีในการออกอากาศคืนวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2549 นี้!
พลันที่สิ้นเสียงเอื้อนลากตะเบ็งของ ?เสี่ยตา - ปัญญา นิรันดร์กุล? ว่า ?ถูกต้องคร้าบบบ!!!??คุณพ่อ คุณแม่ และกองเชียร์ก็กรูกันเข้าไปอุ้มชู ?เสี่ยเดียว? ไชโยโห่ฮิ้วแสดงความร่าเริงยินดีกันจนเวทีแทบแตก!
ซึ่งคงไม่ต่างจากกองเชียร์ทั่วประเทศที่รอลุ้นติดตามหน้าจอทีวี ที่มีอารมณ์ตื่นเต้นดีใจไม่แพ้กัน เพราะนี่เพิ่งเป็นครั้งแรกที่แจ๊คพอตแตกกระจุยในเกมทศกัณฐ์รุ่นจิ๋ว!
1. น้องเดียว?อัจฉริยะเด็กแห่งยุคโลกาภิวัตน์
?เด็กเอ๋ย เด็กน้อย ความรู้เจ้ายังด้อย จงเร่งศึกษา?เมื่อเติบใหญ่ จะได้มีวิชา เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน!?
อาขยานบทนี้ ผู้เขียนท่องจำได้แม่นยำ ตั้งแต่เมื่อเรียนชั้นประถมศึกษา?วันนี้ เห็นท่าจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขซะแล้ว! เพราะโลกเราเปลี่ยนแปลง ก้าวหน้า ล้ำยุคไปมาก ทั้งทางด้านสังคม วัฒนธรรม การศึกษา และเทคโนโลยี ฯลฯ จนเด็กๆ สามารถเรียนรู้สรรพศาสตร์ และสารพัดข้อมูล ข่าวสาร หรือวิชาการ (ที่ตนชอบ) ได้ง่ายดายตลอด 24 ชั่วโมง โดยผ่านระบบ internet (ความเร็วสูง!)
ความสำเร็จและอัจฉริยภาพของน้องเดียว (เด็กน้อยอายุเพียง 5 ขวบเศษ) คนนี้ นอกจากได้สร้างปรากฏการณ์แปลกใหม่ และสะท้อนบุคลิกภาพของเด็กพันธุ์ใหม่ ให้เป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว ยังสามารถจุดประกายความคิด (ใหม่) ความหวัง แง่คิด และมุมมอง (ใหม่) ในหลายๆ ด้านให้แก่บุคคลต่างๆ รวมถึงองคาพยพทุกภาคส่วนของสังคมไทยได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น
(1) บทบาทของพ่อแม่กับลูก
?เด็กฉลาด ชาติเจริญ? ขึ้นอยู่กับพ่อแม่เป็นแกนหลัก โดยเริ่มตั้งแต่ขณะตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องมีอารมณ์เบิกบาน สดชื่น แจ่มใส ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ การพูดคุยกับลูก (ในครรภ์) การเปิดเพลงคลาสสิกให้ฟังอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ฯลฯ
?น้องเดียว? เอง ก็ถูกฟูมฟักเลี้ยงดูเอาใจใส่อย่างเป็นระบบ โดย (ยอด) คุณแม่ ซึ่งอ่านจากสารพัดตำรามาประยุกต์ เลี้ยงลูกตามสถานการณ์ การให้ความรักความอบอุ่นโดยอยู่ใกล้ชิดลูกเกือบ 24 ชั่วโมง การเล่านิทาน การพาลูกไปเปิดหูเปิดตา การปลูกฝังให้ลูกออกกำลัง (ว่ายน้ำ) นอกจากสุขภาพแข็งแรงแล้ว กีฬาจะเพาะบ่มเสริมสร้างทั้งอารมณ์ ความอดทน การรู้แพ้รู้ชนะ (สปิริต) การทำงานเป็นทีม ความมุ่งมั่นและแข็งแกร่งของจิตใจ ฯลฯ
(2) บทบาทคุณครูกับนักเรียน
ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ตัดสินใจส่งลูกทั้ง 3 คน ไปเรียนหนังสือที่ Christchurch (New Zealand) โดยให้ภรรยาลาออกจากงานไปดูแลลูกน้อยทั้ง 3 อย่างอบอุ่นใกล้ชิด เพื่อให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพคับแก้วพร้อมมูลทุกด้าน!
หรือถ้าจะสังเกตเทียบดูจากบุคคลชั้นนำที่มีชื่อเสียง หรือผู้บริหารระดับสูงในสังคมบ้านเรา ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนผ่านการศึกษาจากมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนประถมในต่างประเทศเป็นผู้เพาะบ่มขัดเกลาบุคลิกภาพ แนวคิด ภูมิความรู้ และวิถีการทำงาน อย่างโดดเด่น อาทิเช่น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช (Cambridge University) อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรณ์ จาติกวณิช (Eton School & Oxford University) เป็นต้น
แต่?ใช่ว่าผู้ที่ไม่เคยไปศึกษาต่างประเทศ จะไร้คุณภาพ/ไร้วิสัยทัศน์ เพราะคนไทย/เด็กไทยที่เก่งๆ และประสบความสำเร็จก็มีไม่น้อย อาทิเช่น ฯพณฯ ชวน หลีกภัย ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา หรือกลุ่มนักเรียนมัธยมของไทยที่คว้ารางวัลจากการแข่งขันวิชาการระดับโลก หรือดาราขวัญใจวัยรุ่น ?แพนเค้ก? (เขมนิจ จามิกรณ์ ก็จบจาก ร.ร.สาธิตเกษตรเท่านั้น) ฯลฯ
แต่?ต้องยอมรับว่าการศึกษาในต่างประเทศย่อมได้เปรียบกว่าในหลายๆ ขุม เช่น ระบบการเรียนการสอนที่ได้มาตรฐาน (กว่า) ตำรา/อุปกรณ์การศึกษาครบถ้วนสมบูรณ์ (กว่า) เทคโนโลยีสูงกว่า (หลายขั้น) และการได้เห็นความเจริญของชาติมหาอำนาจ ซึ่งก้าวไกลกว่าเรา 10 - 20 ปี เป็นต้น?นี่คือข้อได้เปรียบที่เป็นแต้มต่ออย่างมาก ซึ่งหากเปรียบเทียบจากบุคคลเดียวกัน อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต่างกันเช่นนี้ ผลลัพธ์ (output) สุดท้าย ย่อมได้คุณภาพบุคลากรที่แตกต่างกันแน่นอนครับ!
ก็หวังว่า?ในอนาคตอันใกล้ ใต้กระแสโลกาภิวัตน์ และการเปิดเสรีทางการค้า (และการศึกษา) จากสนธิสัญญา FTA จะส่งผลให้แต้มต่อต่างๆ เหล่านี้ ลดลงได้มากกว่านี้!
2. เมื่อ ?น้องเดียว? พิชิตรางวัลทศกัณฐ์เด็ก!
ลุงปัญญา (นิรันดร์กุล) บอกว่า ?ถ้าทำได้ (ทายปริศนาครบ) 200 หน้า จะพาไปยูโรดิสนีย์แลนด์ 7 วัน 7 คืน และให้ไปท่องเที่ยว 3 ประเทศ (ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี) แล้วก็ให้บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าถึง 2 ล้านบาท รวมกับเงินรางวัลจากการเล่นเกมทศกัณฐ์ทั้งสิ้นเป็นรางวัลรวมทั้งหมดถึง 4 ล้านบาท?พอทายได้ 200 หน้าปุ๊บ ก็ให้เลิกเล่นได้เพราะทำสถิติได้สูงสุดแล้ว?
วันนี้ ?น้องเดียว? (เสี่ยเดียว) ของเราทำได้แล้ว (จริงๆ!) ซึ่งก็คงมีปริศนากังขาว่า (ตามประสาคนไทย) ?เตี๊ยมกันรึเปล่าเนี่ย??
ในมุมของผู้เขียน ซึ่งได้ติดตามชม ?น้องเดียว? มาตลอด (เป็นแฟนคลับคนหนึ่งว่างั้นเถอะ!) ต้องขอชมเชยว่าหนูน้อยคนนี้เก่งจริงและเก่งเกินวัย แถมยังมีความสามารถรอบตัว ครบเครื่อง เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะได้รับรางวัลเกียรติยศชิ้นแรกนี้ (แปลว่าจะยังมีรางวัลชิ้นโตตามมาอีกมากมายแน่นอน!) เรียกว่า ?บุญพาวาสนาส่ง?
ซึ่งลุง (คนนี้) ขอชี้แนะต่อคุณพ่อคุณแม่ของ ?น้องเดียว? ให้เริ่มวางแผนแต่เนิ่นๆ ดังนี้ครับ
(1) เงินรางวัลเจ้ากรรม อาจต้องหลั่งน้ำตาถึง 4 หยด ดังนี้ครับ
- น้ำตาหยดแรก เกิดจากความตกใจ ระคนดีใจ + แพ้แสงแฟลชที่ถ่ายรูปโอบอุ้มกันจ้าละหวั่น?ซึ่งผู้ที่หลั่งน้ำตา (ปีติ) น่าจะเป็นยอดคุณพ่อกับคุณแม่?ส่วน ?เสี่ยเดียว? ของเราคงยิ้มแก้มปริและเหลือบหารอยยิ้มยินดีของ ?น้องปันปัน? (ปั๊บปี้เลิฟ) ของเธอโดยไม่สนผู้ใดเป็นแม่นมั่น แฮ่ม!
- น้ำตาหยดสอง ก็คือภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 5% จากการชนะแข่งขันเกมทศกัณฐ์ 4 ล้านบาท (เท่ากับ 200,000 บาท) ซึ่งโชคดีที่ ?น้องเดียว? ได้รางวัลส่วนหนึ่งเป็นเงินสด จึงไม่ต้องควักกระเป๋ามาจ่ายเองเหมือนกรณี ?มิสไทยแลนด์เวิลด์/นางสาวไทย? ซึ่งได้รางวัลเป็นมงกุฎเพชร + คทา (ทอง) + สายสะพาย ฯลฯ นั้นไซร้ สรรพากรจะคำนวณฐานภาษีจากราคาตลาด (ตาม price list ที่ประกาศ) จ้า!
- น้ำตาหยดสาม เกิดจาก VAT 7% สำหรับมูลค่าสินค้าหรือบริการที่ได้รับเป็นรางวัล ซึ่งกรณีของ ?น้องเดียว? ก็คือมูลค่าแพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศ นั่นเอง
กรณีดังกล่าว ผู้เขียนได้ชอบออกเป็นข้อสอบถามนักศึกษา X-MBA (ธรรมศาสตร์) และ CEO - MBA (หอการค้าไทย) อยู่บ่อยๆ ว่าจะลดแรงกระแทกได้อย่างไร? ซึ่งนักศึกษาเหรียญทองแนะนำว่าให้แจกรางวัลเป็น ?เงินสด? จึงจะหลุดบ่วงภาษีข้อนี้ไปได้จ้า!
- น้ำตาหยดสุดท้าย สิ้นปี 2549 ?น้องเดียว? ต้องนำเงินได้รวม 4 ล้านบาท ดังกล่าว ไปรวมคำนวณยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 โดยถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (8) (เงินได้จากการอื่น) ซึ่งลาภลอย (windfall gift) เหล่านี้ ไม่อาจหักรายจ่ายใดๆ ได้เลย เพราะมิได้เกิดจากน้ำพักน้ำแรง (unearned income) จึงไม่มีรายจ่ายใดๆ เพื่อผลิตรายได้ดังกล่าวขึ้นมา
วิธีที่ง่ายที่สุดของการแก้ปัญหา (วางแผน) ภาษีทั้งปวงข้างต้น ก็คือ แจ้งแก่ลุงปัญญาให้ช่วยจ่ายภาษีทั้งหมดแทน ?น้องเดียว? ด้วยคร้าบบบ!! (แฮ่ๆ)
(2) เงินได้จากการโฆษณาและโชว์ตัว
พัทธดนย์ แปลว่า ?บุตรชายผู้เป็นที่รักยิ่ง? ซึ่งคุณพ่อกับคุณแม่เป็นผู้ตั้งชื่อให้ ด้วยความที่มีบุตรยากจึงคิดว่าจะมีเพียงคนเดียว (น้องเดียว)?ตอนคลอดก็ต้องผ่าตัด เพราะศีรษะโต (แปลว่าฉลาด) แถม ?หน้าผากเถิก? ตามตำราโหงวเฮ้งของจีนอีกต่างหาก!
วันนี้ด้วยวัยเพียง 5 ขวบ (เท่านั้น) ดวงดาวเศรษฐีเริ่มโคจรสู่กระเป๋าของ ?น้องเดียว? ซึ่งได้กลายเป็นพรีเซ็นเตอร์ ?ไมโล? (เครื่องดื่มมอลต์สกัด) เพื่อเขย่าบัลลังก์ (ยอดขาย) ของอภิมหาคู่แข่ง (ตลอดกาล) อย่าง ?โอวัลติน? ซึ่งได้ ?น้องพลับ? + รวิชญ์ เทิดวงส์ + ดวงดาว จารุจินดา + น้องดาด้า กลายเป็น 4 รุม 1
เงินรางวัลฯ ส่วนนี้ (ค่าโฆษณา/โชว์ตัว) ของ ?น้องเดียว? เข้าลักษณะเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (2) รับจ้างทำของ ซึ่งสามารถหักรายจ่ายเหมาได้เพียง 40% ไม่เกิน 60,000 บาท (กำลังจะขยายเพดานเป็น 100,000 บาท) เท่านั้น ซึ่งเงินรายได้ส่วนนี้นับวันจะโตขึ้นเรื่อยๆ (ตามความดัง) ดังนั้น จึงต้องใช้วิธีแตกฐานภาษีโดยอาจตั้งเป็นคณะบุคคล หรือจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด (ซึ่งหากทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และกำไรไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อปี ก็จะถูกจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลเพียงไม่เกิน 15% เท่านั้น) เป็นต้น
(3) เงินได้จากนักแสดงและธุรกิจอื่น
นี่ลุงไม่ได้ยกยอปอปั้น ?เสี่ยเดียว? นะ เพราะโหงวเฮ้ง + เพลงยุทธ์ของสูเจ้าเด็ดสะเด่าและครบเครื่องจริงๆ ขอให้ (ผู้จัดการ) ของหนูวางแผนและกลยุทธ์รับงาน (และรับทรัพย์) ให้ดี รับรองว่า ?เสี่ยตัน? และ ?เสี่ยโอ๊ค? ยังต้องเหลียวมองก็แล้วกัน!
นับว่าลุงปัญญาตาแหลมที่รีบจีบหนูเซ็นสัญญากับบริษัท work point entertainment ถึง 5 ปี ซึ่งคาดว่ารายได้ของหนูน่าจะมาจากดาราภาพยนตร์ พอคเก็ตบุ๊ค ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น เสื้อผ้า เครื่องกีฬา เครื่องเขียน เครื่องเล่น ของชำร่วย เป็นต้น
การวางแผนภาษีส่วนนี้ นับว่าสำคัญยิ่ง (เพราะรายได้จะเป็นเม็ดเงินก้อนโตมหาศาล - ถ้าทำถูกจุดและถูกทาง) ซึ่งลุงเห็นด้วยที่ได้ผู้จัดการธุรกิจที่เก่งกาจอย่างลุงปัญญามาดูแลภาคธุรกิจฯ?ส่วนตัวหนูจะได้ตั้งหน้าแสดงออก (ทางสื่อ) โดยไม่ต้องพะวงหลัง (ธุรกิจ) รูปแบบของหน่วยภาษีจึงน่าจะเป็น Holding Company โดยถือหุ้นฝ่ายละ 50% (เสี่ยตา + เสี่ยเดียว) เพื่อเป็น บริษัทแม่ โดยต่อไปอาจแตกหน่วยภาษีไปเป็นบริษัทต่างๆ ตามแต่ละประเภทธุรกิจ ซึ่งต้องมีพันธมิตรที่เชี่ยวชาญแต่ละแขนงมา จัดตั้งบริษัทร่วมกันอีกหลายรายการ?ซึ่งหากสามารถนำบริษัทแม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ในอนาคต?แฮ่ๆ ?เสี่ยตา? อาจต้องยกให้ ?เสี่ยเดียว? เป็นซือเฮียก็เป็นได้ใครจะรู้ (แฮ่ๆ)!
3. ส่งท้าย
น้องเดียวเอ๋ย...ความสำเร็จในวันนี้ของหนู เป็นเพียงจุดเริ่มต้น (kick off) เท่านั้นนะ...หนทางและขวากหนามข้างหน้ายังอีกยาวไกล เพราะหนูเพิ่งจะ 5 ขวบ เท่านั้นเอง
ลุงจึงขอฝากคติเตือนใจไว้บริกรรมสัก 3 ข้อ...
(1) ต้องได้ยอดผู้จัดการที่ทันเกม(ธุรกิจ) และทันคน
(2) ต้องวาง 'พอร์ตชีวิต' ให้แข็งแรงมั่นคง อย่าสะดุดหกล้มเชียวหละ
(3) ต้องเรียนหนังสือให้เก่งๆ...จนถึงฝั่ง
รักนะ...เด็กโง่!