คำถามที่ลูกความหรือคนรู้จักมักจะถามผู้เขียนเสมอๆ ก็คือ อยากให้ลูกเรียนกฎหมาย ต้องทำอย่างไร หรือเรียนกฎหมายแล้วดีไหม หลังๆ นี้ดูเหมือนจะได้รับคำถามประเภทนี้บ่อยขึ้น จึงเริ่มตั้งข้อสังเกตว่า ดูจะมีพ่อแม่ที่อยากให้ลูกเรียนกฎหมายเยอะขึ้น
เท่าที่สังเกตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สาขาวิชานิติศาสตร์ดูจะได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก และปีนี้เอง นักเรียนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้คะแนนสูงสุดเป็นนักเรียนที่เลือกสาขาวิชานิติศาสตร์เป็นอันดับ 1 นอกจากนี้ เมื่อคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รับสมัครนักศึกษาด้วยวิธีการสอบตรง ทั้งนี้ เพื่อให้โอกาสนักเรียนที่มีความตั้งใจอยากเรียนสาขานี้โดยเฉพาะ มีโอกาสที่จะเข้าศึกษาได้ และก็เป็นโอกาสที่ให้คณะนิติศาสตร์ได้คัดเลือก (ว่าที่) นักศึกษากฎหมายที่มีความตั้งใจจะศึกษาต่อทางด้านนี้และยังมีคุณสมบัติและความถนัดที่เหมาะสมสำหรับการศึกษาสาขาวิชานี้ด้วย
ปรากฏว่าในปีที่ผ่านมา มีนักเรียนสมัครสอบกว่า 8,000 คน ในขณะที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รับนักศึกษาจากการสอบตรงได้ประมาณ 300 350 คนเท่านั้น เรื่องนี้คงเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า สาขาวิชานิติศาสตร์เป็นสาขาที่ได้รับความนิยมในการเลือกศึกษาต่อเป็นอย่างมาก
โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนสนับสนุนแนวคิดที่จัดให้มีการรับสมัครสอบเข้าศึกษาต่อในคณะนิติศาสตร์แบบที่เรียกกันว่า สอบตรง สำหรับสาขาวิชาที่เป็นวิชาชีพ เช่น วิศวกร สถาปัตยกรรม หรือนักกฎหมาย เป็นสาขาวิชาที่ผู้เรียนควรมีความถนัดหรือทักษะเฉพาะ ซึ่งการศึกษาจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าได้คนที่เหมาะสมเข้ามาศึกษาสาขาวิชาที่เขาชอบและเหมาะสมกับเขา ทีนี้ทักษะอะไรบ้างที่จะทำให้คนที่จะเรียนกฎหมายประสบความสำเร็จ
ตามความเห็นของผู้เขียน ข้อแรก คือเรื่องของความถนัดในการใช้ภาษา ตราบใดที่กฎหมายยังเป็นตัวหนังสือ ตัวอักษร การใช้การตีความ การอธิบายกฎหมายและเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจึงเป็นเรื่องของภาษา และการใช้ภาษา นอกจากนี้ภาษาที่ใช้ในวิชาชีพนิติศาสตร์หรือ ภาษากฎหมาย เป็นภาษาที่มีลักษณะเฉพาะ คือ มีความเป็นทางการสูง ไม่ยืดหยุ่นและไม่สามารถเล่นคำตามใจได้เหมือนการใช้ภาษาในเชิงวรรณกรรม การตลาด หรือในชีวิตทั่วๆ ไป เพราะถ้อยคำในทางกฎหมายเป็นถ้อยคำที่มีความหมายเฉพาะที่กำหนดไว้โดยกฎหมาย หากไปใช้ถ้อยคำอื่น หรือเลือกใช้ถ้อยคำนั้นผิดกาลเทศะ ผลที่ได้อาจคลาดเคลื่อนไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของผู้ใช้ก็ได้
นอกจากต้องเก่งภาษาไทยแล้ว หากนักกฎหมายสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ด้วย ก็จะเป็นการเพิ่มหรือเปิดโอกาสให้สามารถทำงานในแวดวงที่เป็นธุรกิจการค้าได้ดีขึ้น เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าวงการนักกฎหมายธุรกิจนั้น นักกฎหมายธุรกิจที่ภาษาอังกฤษดีจะมีโอกาสที่จะก้าวหน้าในวิชาชีพดีกว่านักกฎหมายที่เก่งกฎหมายอย่างเดียว
คุณสมบัติสำคัญข้อที่สองของนักกฎหมาย (หรือนักศึกษาวิชากฎหมาย) ที่ประสบความสำเร็จ
คือความสามารถในการใช้เหตุผล เพราะกฎหมายเป็นเรื่องของเหตุผล ไม่ใช่เรื่องที่ต้องท่องจำ แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ
ผู้เขียนไม่เคยเห็นด้วยกับหลายๆ ท่านที่มีความเชื่อว่า การเรียนกฎหมายให้ดีคือการต้องท่องจำตำรา ท่องฎีกาให้ได้เหมือนนกแก้วนกขุนทอง
คุณค่าของนักกฎหมายที่ดีและเก่ง เป็นที่ต้องการของลูกความ ไม่ได้อยู่ที่การท่องจำตัวบทหรือฎีกา มิฉะนั้น นักกฎหมายก็สามารถถูกแทนที่ได้โดยง่ายด้วยการค้นหากฎหมายด้วยซอฟท์แวร์ค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูลที่เก็บไว้ คุณสมบัติของนักกฎหมาย คือ การเข้าใจกฎหมาย เพราะกฎหมายไม่ได้ร่วงลงมาจากฟากฟ้าแต่มีที่มาที่ไป มีปัญหามีข้อยุ่งยาก จึงมีการร่างกฎหมายเมื่อมาใช้ ดังนั้น นักกฎหมายจึงต้องเข้าใจที่มาและที่ไป ตลอดจนเหตุผลของกฎหมาย เมื่อนั้นแหละนักกฎหมายจึงจะสามารถเข้าใจปัญหา แยกแยะข้อเท็จจริง และเสนอคำตอบ ทางแก้ หรือคำแนะนำทางกฎหมายได้
เรื่องคุณสมบัติอื่นๆ ของนักกฎหมายที่ดี และประเด็นสำคัญที่ว่าทักษะเหล่านี้สอนกันได้หรือไม่ คงต้องยกไปสัปดาห์หน้า แต่ในเรื่องจะเรียนกฎหมายให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร รวมไปถึงว่าเรียนจบกฎหมายแล้วไปทำงานอะไรได้บ้าง จะมีการจัดงานอภิปรายเรื่อง อยากเรียนกฎหมาย ทำอย่างไรดี โดย ผู้อภิปรายมีทั้งอัยการ ผู้ช่วยผู้พิพากษา ที่ปรึกษากฎหมาย นักกฎหมายที่ประสบความสำเร็จในวงการธนาคาร ในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ เวลา 9.00 12.00 น. ที่ห้องประชุมอาคารฐานเศรษฐกิจ
ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองที่สนใจอยากให้ลูกหลานเรียนต่อทางด้านกฎหมายน่าจะไปฟัง การเข้าร่วมงานนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด สนใจติดต่อได้ที่ thelawreview@hotmail.com ค่ะ