ผู้มีหน้าที่เสียภาษีมีหน้าที่ตามกฎหมายโดยสรุปดังนี้
3.1 ยื่นแบบฯ และเสียภาษีอากรที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องและครบถ้วน
(ตามประมวลรัษฎากร, พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543ฯ เป็นต้น)
3.2 ขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และจดทะเบียนภาษีตามที่กฎหมายกำหนดแล้วแต่กรณี และหากมีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญ จะต้องแจ้งแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง
3.3 จัดทำเอกสารหลักฐาน และบัญชีใดๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ ใบรับ ใบส่งของ ใบกำกับภาษี บัญชีรายได้ รายจ่าย งบการเงิน บัญชีพิเศษ ฯลฯ แล้วแต่กรณี
3.4 ให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงาน เมื่อได้รับหนังสือเชิญพบ หรือหนังสือขอให้ยื่นเอกสาร หรือหลักฐานใดๆ เพื่อประกอบในการเสียภาษีอากร ตลอดจนปฏิบัติตามหมายเรียกของเจ้าพนักงาน (ต้องเข้าพบเจ้าพนักงานด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่ดีที่สุด การมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปทำการแทน ควรเป็นทางเลือกสุดท้ายจริง ๆ)
3.5 ชำระภาษีตามการประเมินของเจ้าพนักงานประเมิน ภายในกำหนดเวลา หากมิได้ชำระภาษีหรือชำระไว้ไม่ครบถ้วน เจ้าพนักงานมีสิทธิยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ค้างภาษีอากร เพื่อนำไปชำระหนี้ภาษีได้โดยไม่ต้องฟ้องศาล
(เมื่อได้รับหนังสือแจ้งการประเมินภาษีแล้ว หากจะคัดค้านต้องทำการอุทธรณ์เป็นลายลักษณ์อักษร ต่อเจ้าพนักงานประเมิน ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือฯ มิฉะนั้นจะเสียสิทธิ)
3.6 การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอากร นอกจากต้องรับผิดทางแพ่งแล้ว ยังต้องรับผิดทางอาญาอีกด้วย
|