ผู้เขียน สิทธิเดช ลีมัคเดช
bananaclick@gmail.com
การบรรยายในหัวข้อเรื่องพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในหลายเวที มักมีคำถามจากผู้เข้าร่วมรับฟังการสัมมนาอยู่เสมอๆ ต่อไปนี้เป็น 20 คำถามสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้น อีคอมเมิร์ช
1. ทำไมต้องทำเว็บไซต์อีคอมเมิร์ช ?
การทำเว็บไซต์ก็เปรียบเสมือนหน้าร้านอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อได้สะดวกขึ้น ค่าใช้จ่ายในการทำเว็บไวต์ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับผลที่ได้รับนับว่าเนช่องทางจัดจำหน่ายที่น่าสนใจ เพราะ มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นทุกวัน นั้นหมายถึงตลาดที่โตขึ้นด้วย
2. การทำเว็บไวต์ควรทำเองหรือจ้างทำ ?
ควรพิจารณาจากธุรกิจเป็นหลัก ว่ามีการเปลี่ยแปลงข้อมูลมากน้อยเพียงใด เพราการจ้างผู้อื่นทำ เพราะการจ้างผุ้อื่นทำจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทุกครั้ง และบางครั้งก็ไม่สามารถแก้ไขให้ทันใจเจ้าของธุรกิจได้ หรืออีกทางหนึ่งคือการใช้เว็บสำเร็จรูป โดยเจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นมีความรู้เรื่องภาคอมพิวเตอร์ เพราะบริษัทผู้ให้บริการเว็บฯ สำเร็จรูปจะออกแบบมาในลักษณธแบบฟอร์มตอบคำถาม เมื่อกรอกข้อมูลก็จะอัพโหลดเป็นเว็บได้ทันที การเพิ่มเติมข้อมูลก็สามารถทำได้ด้วยตนเองทันที
3. ทำอย่างไรให้อยู่อันดับต้นๆ ของเว็บฯ ค้นหาอย่าง Google.com ?
เลือกคำค้นหาที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใช้ในกรณีที่ต้องการสินค้าหรือบริการ และนำ คำ เหล่านั้นมาสร้างรูปประโยคในส่วนของเว็บเพจที่สำคัญ เช่น title เนื้อหาอธิบายในเว็บไซต์ โดยพยายามทำให้ลูกค้าที่ค้นหา อยู่ในเว็บฯ ให้นานที่สุด (หากเป็นไปได้ควรทำลิงค์เชื่อมกับเว็บไซด์ที่เกี่ยวข้อง) เพื่อไม่ให้ลูกค้ากลับไปที่เว็บ Google.com เพื่อค้นหาคำเดิมในลำดับอื่น เพราะการจัดอันดับในเว็บเซิร์ชเอนจินมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นธุรกิจที่มีกำไรสูง ควรจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อจัดซื้ออันดับ (ทางด้านขวา) ไปเลย เพื่อความมั่นใจว่าลูกค้าจะเห็นเว็บฯ ของเราอย่างแน่นอน
4. ต้องจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่อทำเว็บไซต์หรือไม่ ?
บุคคลธรรมดาก็สามารถเปิดเว็บไซต์ได้ แต่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในกรณีทำเว็บไซต์ข้าข่ายที่พัฒนาธุรกิจการค้ากำหนด โดยเสียค่าจดทะเบียนครั้งละ 50 บาท สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.dbd.go.th
5. ประโยชน์ของการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร ?
ได้รับใบรับรองเพื่อยืนยันตัวตนและสถานที่ เพิ่มความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้า
6. ควรใช้งบประมาณประชาสัมพันธ์เท่าไร ?
ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของธุรกิจ บางธุรกิจถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการตลาดซึ่งอาจกำหนดให้สัมพันธ์กับประมาณการยอดขาย ในช่วงแรกอาจยังไม่มีรายได้เข้ามามากนัก แต่หากมั่นใจว่าใช้กลยุทธ์ถูกต้องและตรงกลุ่มเป้าหมายแน่นอนแล้ว (สังเกตจากสถิติผู้ชมที่เพิ่มมากขึ้น รายได้มีแนวโน้มสูงขึ้น) ก็ควรตั้งเป้นงบประมาณเฉพาะขึ้นมา จนกระทั่งมีฐานลูกค้ามากพอแล้วจึงค่อยลดงบประชาสัมพันธ์มาเป็นส่วนลดเพื่อดึงดูดใจลูกค้า
7. ควรมีระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตในเว็บหรือไม่ ?
ระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตในเว็บไซต์มีขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อโดยไม่ต้องไปโอนเงินหรือใช้เงินสดซื้อสินค้า ที่สำคัญยังเป็นหลักประกันว่าหากผู้ขายไม่ส่งสินค้าให้ ผู้ซื้อก็สามารถปฏิเสธการจ่ายเงินกับธนาคารหรือบริษัทผู้ออกบัตรได้ เว็บฯ ที่มีระบบชำระเงินแบบนี้จึงเป็นที่นิยม ของชาวต่างประเทศ แต่ในกรณีค้าขายในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะใช้เว็บไซต์เพื่อเลือกสินค้าและโทรศัพท์มานัดส่งของแล้วจึงชำระเงิน ดังนั้นการมีระบบชำระเงินแบบนี้จึงควรพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อสินค้าเป็นหลัก
8. มีวิธีใดบ้างที่จะป้องกันความเสี่ยงจากการนำบัตรเครดิตผู้อื่นมาซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ ?
ทำได้โดยการสอบถามรหัสอนุมัติจากผู้ทำรายการสั่งซื้อ เพื่อตรวจสอบว่าหมายเลขตรงกับที่ธนาคารหรือผู้ออกบัตรเครดิตระบุหรือไม่ ? ให้ผู้ทำรายการสั่งซื้อสแกนใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต ซึ่งเจ้าของบัตรจริงต้องได้รับทุกเดือนมาประกอบมาประกอบเอกสารสั่งซื้อทุกครั้ง กรณีที่ผุ้ซื้อรายใหม่สั่งซื้อของในปริมาณมาก ให้สอบถามกับธนาคารที่เปิดบัญชี Merchant ID ว่ามีพฤติกรรมการซ้อที่ผิดปกติหรือไม่
9. การทำเว็บไซต์ไม่จำเป็นต้องมีนโยบายรับคืนสินค้า (Return Policy) ได้หรือไม่ ?
เป็นการสร้างหลักประกันทำให้ลูกค้ามั่นใจในตัวสินค้าและแสดงถึงความรับผิดชอบของผู้ขาย ในกรณีที่ไม่มีนโยบายนี้จะทำให้ลูกค้าเกิดความลังเลและรู้สึกว่ามีความเสี่ยงในการใช้บริการ แต่เงื่อนไขในการคืนสินค้าต้องมีความเป็นธรรมกับผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าด้วย เช่น หากไม่พอใจสินค้าสามารถส่งคืนได้ใน 7 วัน
10. กรณีลูกค้าติต่อขอตัวอย่างสินค้าฟรี ควรให้หรือไม่ ?
ขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายและโอกาสการขายสินค้านั้นๆ หากสินค้านั้นราคาไม่แพงนัก อาจจะเสนอให้ฟรีได้โดยให้ลูกค้าออกค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ในกรณีที่มีการขอจำนวนมากๆ ก็ถือโอกาสขายในราคาส่ง หรือในกรณีที่สินค้ามีมูลค่าสูง ก็ให้ลูกค้าชำระเงินก่อน หากมีการตกลงซื้อขายกันภายหลังก็ยินดีที่จะหักค่าสินค้าตัวอย่างให้
ที่มา : นิตยสารอีคอมเมิร์ซ ฉบับเดือน ธันวาคม 2549 |