ตามที่ได้มีประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นงบการเงิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นงบการเงิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๙ ลงวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ และประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นงบการเงิน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๒ ลงวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒
บัดนี้ เห็นสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นงบการเงินให้สอดคล้องกับมาตรา ๓๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ เพื่อให้ทันสมัยเหมาะสมกับสภาวการณ์ โดยคำนึงถึงความสะดวก รวดเร็ว และลดภาระของประชาชนเป็นสำคัญ รวมทั้ง เพื่อให้ภาครัฐมีข้อมูลที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจของประเทศอย่างครบถ้วน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓ อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติของกฎหมาย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นงบการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๓”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิก
(๑) ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นงบการเงิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘
(๒) ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นงบการเงิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๙ ลงวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นงบการเงิน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๒ ลงวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒
(๔) ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง กำหนดวิธีการยื่นแบบนำส่งงบการเงินที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนระหว่างประเทศ (แบบ ส.บช.๓/๑) ลงวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
ข้อ ๔ ให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชียื่นงบการเงินตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้
(๑) แบบนำส่งงบการเงิน ในการยื่นงบการเงินให้ใช้แบบนำส่งงบการเงิน (แบบ ส.บช.๓) ที่แนบท้ายประกาศนี้
(๒) สถานที่ยื่นงบการเงิน ให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาค สามารถจะยื่นงบการเงินต่อสำนักงานกลางบัญชี (สำนักบริการข้อมูลธุรกิจ ฝ่ายบริการข้อมูลธุรกิจในสำนักบริการจดทะเบียนธุรกิจ ๑-๗ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า) และสำนักงานบัญชีประจำท้องที่ (สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด) แห่งหนึ่งแห่งใดก็ได้
(๓) วิธีการยื่นงบการเงิน การยื่นงบการเงินอาจยื่นต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ณ สถานที่ยื่นงบการเงินตาม (๒) หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ พร้อมแนบซองจ่าหน้าถึงผู้ยื่นงบการเงิน โดยผนึกดวงตราไปรษณียากรด้วย ในกรณีการยื่นงบการเงินโดยส่งทางไปรษณีย์หากเอกสารหลักฐานที่ยื่นครบถ้วนถูกต้องจะถือเอาวันที่ไปรษณีย์ประทับตราต้นทางเป็นวันที่ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชียื่นงบการเงิน
(๔) จำนวนแบบและงบการเงินที่จะต้องยื่น ให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีทั้งที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาค ยื่นแบบนำส่งงบการเงิน (แบบ ส.บช.๓) ๒ ฉบับ งบการเงินและรายงานการสอบบัญชี ๑ ชุด
(๕) ในกรณีผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีเกี่ยวข้องกับการลงทุนระหว่างประเทศ ดังต่อไปนี้ ให้ยื่นแบบนำส่งงบการเงิน (แบบ ส.บช.๓/๑) ที่แนบท้ายประกาศนี้ เพิ่มขึ้นอีกจำนวน ๑ ชุด
(ก) บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่มีบุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักร หรือนิติบุคคลซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย ถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละหนึ่งของมูลค่าหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง
(ข) ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากรที่มีผู้ร่วมลงทุนเป็นบุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักร หรือนิติบุคคลซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย
(ค) นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย
(ง) ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากรที่มีการลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศ ซึ่งได้แก่ การจัดตั้งกิจการ สำนักงานสาขาหรือตัวแทนในต่างประเทศหรือการเข้าร่วมลงทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคลในต่างประเทศโดยมีสัดส่วนการลงทุนหรือการถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละหนึ่งของทุนทั้งหมดของกิจการหรือของมูลค่าหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงแล้วแต่กรณ
การยื่นแบบนำส่งงบการเงินที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนระหว่างประเทศ (แบบ ส.บช.๓/๑) ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีอาจยื่นต่อสถานที่ยื่นงบการเงินตาม (๒) โดยยื่นพร้อมกับแบบ ส.บช.๓ ซึ่งยื่นพร้อมงบการเงินหรือแยกแบบนำส่งงบการเงินเกี่ยวข้องกับการลงทุนระหว่างประเทศ (แบบ ส.บช.๓/๑) เพื่อยื่นต่อธนาคารแห่งประเทศไทยโดยตรงที่ส่วนสถิติดุลการชำระเงิน ฝ่ายบริหารข้อมูล เลขที่ ๒๗๓ ถนนสามเสน แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ๑๐๒๐๐ หรือส่งทางไปรษณีย์ หรือส่งทางโทรสารไปที่หมายเลข ๐-๒๒๘๓-๖๒๙๙ หรือ ๐-๒๒๘๓-๕๓๐๘ หรือส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E–mail) ไปที่ form45@bot.or.th หรือส่งผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ www.bot.or.th ทางหนึ่งทางใดก็ได้
(๖) การลงชื่อในแบบนำส่งงบการเงิน (แบบ ส.บช.๓) งบการเงินและเอกสารประกอบในการยื่นงบการเงินให้ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี ดังต่อไปนี้ เป็นผู้ลงนาม หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ผู้จัดการหรือผู้รับผิดชอบในการดำเนินกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร หรือนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศแล้วแต่กรณี เป็นผู้ลงลายมือชื่อและประทับตรา (ถ้ามี) ในแบบ ส.บช.๓ แบบ ส.บช.๓/๑ งบการเงินทุกหน้า สำหรับหมายเหตุประกอบงบการเงินให้ผู้มีอำนาจกระทำการแทนผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีหนึ่งคนลงนามเฉพาะหน้าสุดท้าย
แบบนำส่งงบการเงิน (แบบ ส.บช.๓) ให้ผู้ทำบัญชีของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีลงลายมือชื่อไว้ในแบบดังกล่าวด้วย
ในกรณีเป็นการยื่นงบการเงินของบริษัทจำกัดให้ระบุในหน้างบดุลด้วยว่างบการเงินนั้นได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่เท่าใด เมื่อวันที่ เดือน และปี พ.ศ.ใดไว้ด้วย
(๗) ในกรณีงบการเงินของบริษัทมหาชนจำกัดที่ได้จัดพิมพ์ไว้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานประจำปีโดยจัดทำเป็นรูปเล่ม ซึ่งได้มีการพิมพ์ลายมือชื่อของบุคคลตาม (๖) พร้อมทั้งพิมพ์ลายมือชื่อผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ลงลายมือชื่อรับรองในรายงานการสอบบัญชีของบริษัทนั้นไว้แล้ว ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีการลงลายมือชื่อของบุคคลดังกล่าว
ข้อ ๕ กำหนดเวลาในการยื่นงบการเงิน
ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีต้องจัดทำงบการเงินและยื่นงบการเงินต่อสำนักงานกลางบัญชีหรือสำนักงานบัญชีประจำท้องที่ตามข้อ ๔ (๒) ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
(๑) ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทยและกิจการร่วมค้า ตามประมวลรัษฎากร ต้องยื่นงบการเงินภายในห้าเดือนนับแต่วันปิดบัญชี
(๒) บริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ต้องนำเสนองบการเงินเพื่ออนุมัติในที่ประชุมใหญ่ภายในสี่เดือนนับแต่วันปิดบัญชี และต้องยื่นงบการเงินภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่งบการเงินนั้นได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่
หากวันสุดท้ายของกำหนดเวลายื่นงบการเงินตาม (๑) และ (๒) เป็นวันหยุดทำการของทางราชการ ให้เลื่อนวันสุดท้ายของกำหนดเวลายื่นงบการเงินไปเป็นวันทำการแรกต่อจากวันหยุดทำการ
ข้อ ๖ งบการเงินที่ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชียื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะต้องได้รับการตรวจสอบและแสดงความเห็นจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้แจ้งไว้ตามประกาศ ก.บช. (ฉบับที่ ๔๔) พ.ศ. ๒๕๔๔ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและการพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนของผู้ที่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต ลงวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ แล้ว หากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตมิได้แจ้งชื่อผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีที่ตนจะทำการสอบบัญชีไว้จะสันนิษฐานว่า งบการเงินนั้นไม่ได้รับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะรับงบการเงินนั้นไว้ชั่วคราวก่อนและให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีดำเนินการ ดังนี้
(๑) แจ้งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเพื่อดำเนินการแจ้งรายชื่อหรือยืนยันลายมือชื่อในการตรวจสอบและแสดงความเห็นในงบการเงินของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีนั้น หรือ
(๒) ส่งหลักฐานที่แสดงว่าผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้รับงานตรวจสอบบัญชีของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีปรากฏไว้ด้วย โดยหลักฐานดังกล่าวจะต้องมีลายมือชื่อของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
หากผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีได้ดำเนินการตาม (๑) หรือ (๒) ภายในกำหนดระยะเวลา ๒ เดือน นับแต่วันที่เจ้าหน้าที่ได้รับงบการเงินไว้ชั่วคราว ถือว่าผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีได้ยื่นงบการเงินไว้โดยถูกต้องแล้วตั้งแต่วันที่ยื่นงบการเงิน
ในกรณีผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีมิได้ดำเนินตาม (๑) หรือ (๒) ภายในระยะเวลา ๒ เดือนนับแต่วันที่เจ้าหน้าที่ได้รับงบการเงินไว้ชั่วคราว จะถือว่าผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓
บรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
|