การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด ทาง www.dbd.go.th มีดังนี้
1. สมัครเป็นสมาชิก
2. ค้นหาและจองชื่อนิติบุคคล
3. จดทะเบียนนิติบุคคล
4. ชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน
5. ในขณะนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้บริการจดทะเบียนทางอินเตอร์เน็ตได้จำนวน 14 จังหวัด คือ
5.1 กรุงเทพมหานคร
5.2 ขอนแก่น
5.3 เชียงราย
5.4 นครศรีธรรมราช
5.5 นนทบุรี
5.6 ปทุมธานี
5.7 ประจวบคีรีขันธ์
5.8 พระนครศรีอยุธยา
5.9 พิษณุโลก
5.10 ระยอง
5.11 ราชบุรี
5.12 สมุทรปราการ
5.13 อุบลราชธานี
5.14 นครสวรรค์
ข้อมูล ณ วันที่ 26.10.48
เรื่องอื่น ๆ
ตารางค่าธรรมเนียมจดทะเบียนบริษัท ห้างหุ้นส่วน ทะเบียนพาณิชย์ - http://www.dbd.go.th/mainsite/index.php?id=659
เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนฯ -
ในการจดทะเบียนตั้งห้างหุ้นส่วนนั้น ผู้ประสงค์จะขอจดทะเบียนต้องจัดเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้ เพื่อกรอกในแบบพิมพ์คำขอและเอกสารประกอบการจดทะเบียนคือ
1. ชื่อห้างหุ้นส่วน หุ้นส่วนผู้จัดการต้องยื่นขอตรวจและจองชื่อห้างด้วยแบบจองชื่อนิติบุคคลเสียก่อนว่า ชื่อที่ใช้นั้นจะเหมือนคล้ายกับชื่อที่คนอื่นได้จดทะเบียนไว้ก่อนหรือไม่ และต้องไม่ขัดกับกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ชื่อที่ใช้ต้องเป็นภาษาไทยจะมีภาษา ต่างประเทศด้วยก็ได้ และเมื่อได้ชื่อแล้วจะต้องยื่นขอจดทะเบียนตั้งห้างหุ้นส่วนภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มี คำสั่งอนุญาตให้ใช้ชื่อได้
2. วัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วน
3. ที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่และสาขา (ถ้ามี)
4. ชื่อ ที่อยู่ อายุ สัญชาติ และสิ่งที่นำมาลงหุ้นของ หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด และหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดแต่ละคน
5. ชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วน
6. ข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ (ถ้ามี)
7. ดวงตราสำคัญของห้างหุ้นส่วน
8. รายการอื่น ๆ ที่เห็นสมควรจะให้ประชาชนทราบ
วิธีการจดทะเบียน มีขั้นตอนดังนี้ 1. ในกรณีที่จดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วน หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อห้าง ให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือหุ้นส่วนผู้จัดการขอตรวจและจองชื่อห้างหุ้นส่วน เมื่อจองชื่อได้แล้วจะต้องขอ จดทะเบียนภายใน 30 วัน
2. ซื้อคำขอและแบบพิมพ์จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานบริการจดทะเบียน ธุรกิจทั้ง 7 แห่ง หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด (ถ้ามี)
3. จัดทำคำขอจดทะเบียนและเอกสารประกอบคำขอยื่นต่อนายทะเบียนเพื่อตรวจ พิจารณา
4. ชำระค่าธรรมเนียมตามใบสั่งของเจ้าหน้าที่
5. ถ้าประสงค์จะได้หนังสือรับรองรายการในทะเบียน ให้ยื่นคำขอและชำระ ค่าธรรมเนียมต่อเจ้าหน้าที่
6. รับใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนและหนังสือรับรองรายการในทะเบียนได้
การลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน การลงลายมือชื่อในคำขอจะทะเบียนตั้งห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเอง โดยเฉพาะหุ้นส่วนผู้จัดการจะต้องลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน ต่อหน้านายทะเบียนพร้อมแสดงบัตรประจำตัวหรือลงลายมือชื่อต่อหน้าพนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในท้องถิ่นที่ผู้ลงลายมือชื่อมีภูมิลำเนา หรือสามัญสมาชิกหรือสมาชิกวิสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภาก็ได้ หน้าที่ของห้างหุ้นส่วน กิจการห้างหุ้นส่วนมีหน้าที่ ดังนี้
1. จัดทำบัญชี นับตั้งแต่วันจดทะเบียนเป็นนิติบุคล หากไม่จัดทำบัญชี ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
2. ห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีหน้าที่ต้องจัดทำงบดุล และบัญชีกำไรขาดทุนประจำปี ยื่นต่อกองบัญชีธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดแล้วแต่กรณี ภายใน 5 เดือน นับแต่วันที่ปิดบัญชี แม้ว่าจะยังมิได้ประกอบกิจการก็ตาม มิฉะนั้นมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท ทั้งนี้จะปรับหุ้นส่วนผู้จัดการด้วย
3. ป้ายชื่อ ดวงตรา และเอกสารของห้างหุ้นส่วน จะต้องมีคำว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล” หรือ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด” ตามประเภท มิฉะนั้นมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ห้าหมื่นบาทและปรับอีกไม่เกินวันละห้าร้อยบาท ทั้งนี้จะปรับหุ้นส่วนผู้จัดการด้วย
|
ดูรายละเอียดจัดตั้งบริษัทจำกัด ที่นี่ - http://www.dbd.go.th/ewt_news.php?nid=941&filename=index
หลักฐานการใช้ในการจัดตั้งบริษัท ฯ -
การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด
บริษัทจำกัดคืออะไร?
บริษัทจำกัด คือองค์กรทางการค้ารูปแบบหนึ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับกิจการการค้าที่มีขนาดกลางและขนาดใหญ่ และโดยเฉพาะในการประกอบกิจการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากต่างประเทศจะคุ้นเคยกับรูปแบบบริษัทจำกัดมากกว่าห้างหุ้นส่วน และบริษัทจำกัดมีลักษณะเป็นดังนี้
1.มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่สามคนขึ้นไป
2.บริษัทจำกัดจะแบ่งทุนออกเป็นหุ้นมีมูลค่าหุ้นๆละเท่าๆกัน
3.ผู้ถือหุ้นจะรับผิดชอบจำกัดในหนี้ของบริษัทไม่เกินจำนวนเงินตามมูลค่าหุ้นที่ตนถืออยู่และยังส่งใช้ไม่ครบเท่านั้น
4.การจัดตั้งบริษัทจำกัดต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
ขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด
1.ขอตรวจและจองชื่อบริษัทจำกัดที่ประสงค์จะจดจัดตั้ง
2.จัดทำหนังสือบบริคณห์สนธิและนำหนังสือบริคณหฺสนธิไปจดทะเบียน
เมื่อชื่อบริษัจำกัดที่ประสงค์จะจัดตั้งนั้นผ่านการตรวจสอบและตรวจรับจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่คล้ายหรือซ้ำกับนิติบุคคลอื่น ผู้ริเริ่มก่อตั้งบริษัทหรือที่เรียกว่า " ผู้เริ่มก่อการ " ซึ่งจะต้องมีอย่างน้อยสามคนขึ้นไปต้องร่วมกันจัดทำหนังสือบริคณห์สนธิและนำไปจดทะเบียน
เอกสารหลักฐานในการขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ
1)คำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด ( แบบ บอจ.1)
2)หนังสือบริคณห์สนธิ ( แบบ บอจ.2 ) ปิดอากรแสตมป์ 200 บาท
3)วัตถุประสงค์ ( แบบ ว.)
4)แบบจองชื่อนิติบุคคล
5)สำเนาบัตรประจำตัวผู้เริ่มก่อการผู้ขอจดทะเบียน
6)สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
7)หนังสือมอบอำนาจ
8)หลักฐานให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ใช้เฉพาะในการประกอบธุรกิจที่มีกฎหมายพิเศษควบคุม)
อัตราค่าธรรมเนียม
จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ คิดตามทุนจดทะเบียนแสนละ 50 บาท ทั้งนี้รวมกันไม่ต่ำกว่า 500 บาท และไม่เกิน 25000บาท
3.ประชุมจัดตั้งบริษัท
หลังจากจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและหุ้นส่วนทั้งหมดมีผู้จองซื้อครบแล้ว ให้ผู้เริ่มก่อการนัดผู้ซื้อหุ้นทุกคนประชุมจัดตั้งบริษัท เพื่อทำความตกลงในเรื่องต่างๆ เช่น ตั้งข้อบังคับบริษัท ให้สัตยาบันสัญญาหรือตกลงอนุมัติค่าใช้จ่ายที่ผู้เริ่มก่อการได้ทำหรือออกไปแล้ว กำหนดจำนวนและสภาพของหุ้นบุริมสิทธิ (ถ้ามี) กำหนดจำนวนหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิที่จะออกทดแทนการลงทุนด้วยอย่างอื่นนอกจากเงิน เลือกตั้งกรรมการและกำหนดผู้ที่จะมีอำนาจกระทำการลงชื่อแทนบริษัท แต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดเงินค่าจ้างเป็นต้น
4.ผู้เริ่มก่อการมอบกิจการงานทั้งหมดให้คณะกรรมการบริษัท
5.คณะกรรมการต้องเรียกเก็บเงินค่าหุ้นจากผู้จองซื้อหุ้น โดยจะเรียกเก็บครั้งเดียวเต็มมูลค่าหรือเรียกเก็บครั้งแรกไม่น้อยกว่าหุ้นละ 25% ก็ได้
6.จัดทำคำขอและจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด
เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด
1.คำขอจดทะเบียน (แบบ บอจ.1)
2.รายการจดทะเบียนจัดตั้ง (แบบ บอจ.3)
3.รายละเอียดกรรมการ (แบบ ก. )
4.บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ. 5)
5.สำเนาหนังสือนัดประชุมตั้งบริษัท
6.สำเนารายงานการประชุมตั้งบริษัท
7.สำเนาข้อบังคับ ปิดอากรแสตมป์ 200 บาท (ถ้ามี)
8.แบบ สสช.1จำนวน 1 ฉบับ
9.หลักฐานการรับชำระค่าหุ้น ที่บริษัทออกให้แก่ผู้ถือ
10.สำเนาบัตรประจำตัวของกรรมการผู้ขอจดทะเบียน
11.สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
12.หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
กรณีคนต่างด้าวลงทุนในบริษทตั้งแต่ร้อยละ 40 แต่ไม่ถึงร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน หรือกรณีมีคนต่างด้าวลงทุนในบริษัทต่ำกว่าร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียน แต่คนต่างด้าวเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทให้ผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทยทุกคนส่งหลักฐานแสดงที่มาของเงินลงทุนซึ่งแสดงจำนวนเงินที่สอดคล้องกับจำนวนเงินที่ชำระแล้วของผู้ถือหุ้นแต่ละราย ดังนี้
-สำเนาสมุดเงินฝากธนาคาร หรือสำเนาใบแจ้งยอดบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน หรือ
-เอกสารที่ธนาคารออกให้เพื่อรับรอง หรือแสดงฐานะทางการเงินของผู้ถือหุ้น หรือ
-สำเนาหลักฐานที่แสดงแหล่งที่มาของเงินที่นำมาชำระค่าหุ้น
อัตราค่าธรรมเนียม
1)คิดตามทุนจดทะเบียน แสนละ 500 บาท แต่ไม่น้อยกว่า 5000 บาท และไม่เกิน 250000 บาท
2)หนังสือรับรองฉบับละ 200 บาท
3)ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน ฉบับละ 100 บาท
4)รับรองสำเนาเอกสารหน้าละ 50 บาท
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
การลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียน ผู้เริ่มก่อการหรือกรรมการผู้ขอจดทะเบียนต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเองต่อหน้านายทะเบียน
ในกรณีที่ไม่อาจลงลายมือชื่อต่อหน้านายทะเบียนได้ไม่ว่าด้วยประการใดๆให้ผู้ขอจดทะเบียนลงลายมือชื่อด้วยตนเองต่อหน้าบุคคลดังต่อไปนี้
1.กรณีลงลายมือชื่อในราชอาณาจักร
(1)พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งประจำอยู่ในท้องที่ที่ผู้ขอจดทะเบียนมีภูมิลำเนาอยู่
(2)สามัญสมาชิกหรือสมาชิกวิสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภา หรือ
(3)บุคคลอื่นตามที่นายทะเบียนกลางประกาศกำหนดได้แก่
-ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
-กรรมการและเจ้าหน้าที่หอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัด ตามประกาศสำนักงานทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดจะลงลายมือชื่อต่อหน้าได้ (ฉบับ 2) ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2550
2.กรณีลงลายมือชื่อในต่างประเทศ
(1)เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของสถานฑูตไทยหรือสถานกงสุล หรือหัวหน้าสำนักงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งรับผิดชอบดำเนินการ ณ ประเทศนั้นหรือเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายให้ทำการแทนบุคคลดังกล่าว
(2)บุคคลซึ่งสามารถให้การรับรองที่สมบูรณ์ตามแบบของกฎหมายประเทศนั้น หรือ
(3)บุคคลที่ควรเชื่อได้สองคนมาลงลายมือชื่อรับรองต่อหน้านายทะเบียนว่าเป็นลายมือชื่อผู้นั้นจริง
|